พระเด่นคนดังบ้านเมือง (3 มี.ค.67)

“พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๗ ชั้น แข้งหมอน”

 

พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์แข้งหมอนเป็นพระเนื้อผง ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านสร้างบรรจุไว้ ที่วัดไชโยวรวิหาร จ.อ่างทอง ถือเป็นพิมพ์นิยมรองจากสามพิมพ์หลัก  พิมพ์ 7 ชั้นแข้งหมอนมีรายละเอียดคล้ายกับพิมพ์ 7 ชั้นนิยม และ 7 ชั้นหูประบ่า แต่ลายเส้นแตกต่างกันไป  ลายเส้นจะหยาบใหญ่  ปลายฐานทู่ทื่อ  พระเกศ พระกรรณ พระอุระ ล้วนแต่หนาใหญ่  แต่ด้วยศิลปะเนื้อหาเป็นพระสมเด็จที่น่าเก็บสะสมไม่อาจมองข้ามด้วยประการทั้งปวง พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์  7 ชั้นแข้งหมอน องค์นี้สภาพสวยแชมป์  คมชัดลึกไม่มีอุดซ่อม  เนื้อหาจัดจ้านเหมือนพิมพ์นิยมอยู่ในความครอบครองของ ท่านอาจารย์ สมาน คลองสาม กรรมการรับตัดสินชี้ขาดพระชุดเบญจภาคีของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย

 “พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์หกชั้นอกตัน”

 

 

พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ 6 ชั้น อกตันเป็นพิมพ์นิยมอันดับ 2 รองจากพิมพ์ 7 ชั้นนิยม พิมพ์นี้มีลีลาการแกะแม่พิมพ์ที่ยังคงเอกลักษณ์ของเกศไชโย ทั้งกรอบกระจก อกร่อง หูบายศรี  เพียงแต่ลดจำนวนฐานเหลือ 6 ชั้น พิมพ์ 6 ชั้นอกตันเป็นพิมพ์มาตรฐานมีเส้นสายอ่อนพลิ้ว มีเนื้อหน้าอกที่เต็มตันบริเวณยอดอก  เป็นที่มาของการแบ่งพิมพ์ ส่วนเนื้อพระพิมพ์นี้พบทั้งเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบ ปัจจุบันวงการพระเครื่องให้ความนิยมสูง และจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเช่นเดียวกับพระสมเด็จวัดระฆังและพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม องค์นี้ผิวเดิม คมชัดตำหนิพิมพ์ทรงมาตรฐาน เป็นพระที่จัดอยู่ในตระกูลพระสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีจัดสร้าง องค์นี้ของกำนันมานะ บางแค

“พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ 6 ชั้นอกตลอด”

 

พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้น อกตลอดหรือ 6 ชั้นอกร่อง ครองความนิยมอยู่อันดับ 3 ในกลุ่ม 3 พิมพ์หลักของวัดเกศไชโย รองจากพิมพ์ 7 ชั้น  และพิมพ์ 6 ชั้นอกตัน จุดเด่นของพิมพ์ 6 ชั้น อกร่อง อกตลอด อยู่ที่หน้าอกองค์พระ ช่างแกะพิมพ์ใช้เส้นเพียง 2 เส้นขึ้นรูปเป็นชายโครงสองข้าง เว้นตรงกลางเป็นอกร่องลักษณะของอกจึงเป็นช่องกลวงตั้งแต่ ยอดอกไปถึงท้อง พระกรรณหรือใบหูยังคงเป็นหูบายศรีติดชัดทุกองค์ พระสมเด็จเกศไชโย 6 ชั้นอกตลอดองค์นี้เป็นพระหน้าใหม่ พิมพ์มาตรฐาน ผ่านงานประกวดมาแล้ว อยู่ในความครอบครองของ คุณฤทธิ์ หล่มสัก  โทร.064-5369953

“พระลีลากำแพงใบขนุน กรุวัดราชบูรณะ”

 

 

เป็นพระขนาดใหญ่สร้างตามคติให้ครบพระธรรมขันธ์ เหมือนพระกำแพงห้าร้อย  ตรงกลางมีพระพุทธรูปปางลีลาศิลปะสุโขทัย งดงามมากเข้าใจว่าได้รับอิทธิพลมาเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเข้าไปมีบทบาททางการเมืองเหนือกรุงสุโขทัยสมัยขุนหลวงพระงั่วและสมัยพระบรมไตรโลกนาถเป็นต้นมา แล้วได้สร้างพระที่มีอิทธิพลสุโขทัยบรรจุในกรุเจดีย์ที่กรุงศรีอยุธยา พุทธลักษณะพิมพ์ทรงคล้ายรูปสามเหลี่ยมบ้าง ห้าเหลี่ยมบ้าง ด้านบนมีรอยปาดเนื้อตรงกลาง เป็นพระปฏิมากรปางลีลาเป็นพระประธานอยู่ภายใต้ซุ้มครองแบบคอระฆัง  มีประวัติชัดเจนพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพุทธมารดา พระลีลากำแพงใบขนุน กรุวัดราชบูรณะองค์นี้ของ คุณธงไชย ราชบูรณะ ผู้ชื่นชอบสะสมพระกรุวัดราชบูรณะไว้มากที่สุดในปัจจุบัน สนใจอยากได้พระกรุนี้ที่สวยสมบูรณ์ โทร.ได้ครับ 087-5189215

 

“พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่”

 

 

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่องค์นี้มีคราบกรุปกคลุมอยู่แต่ไม่หนา เห็นเนื้อในบางส่วนที่คราบกรุถูกกระทบกระเทือนหลุดออกไปบ้าง เห็นองค์พระยังคงสมบูรณ์ คราบกรุเกิดจากพระถูกบรรจุลงในเจดีย์วัดใหม่อมตรสหรือวัดบางขุนพรหมสมัยนั้น เวลาผ่านไปหลายสิบปี มีน้ำท่วมใหญ่ปี 2485 กว่าจะเปิดกรุเป็นทางการในปี พ.ศ. 2500 คราบกรุที่เกิดจากอากาศในกรุไอระเหยความร้อนชื้น ทำให้คราบกรุแข็งตัวจับแน่น พระสมเด็จองค์นี้สภาพยังสมบูรณ์อยู่ในความครอบรองของ ดร.คมสัน สุวรรณรุจิ  

 

 “พระหลวงพ่อโต กรุวัดชีประขาวหาย พิษณุโลก”

 

พระหลวงพ่อโต กรุวัดชีประขาวหายปัจจุบันคือวัดตาปะขาว จ.พิษณุโลก พุทธลักษณะโดยรวมแล้วจะคล้ายกับพระหลวงพ่อโตกรุวัดบางกระทิง จ.พระนครศรีอยุธยาแต่มีขนาดเล็กกว่า มีการขุดพบพระเครื่องเนื้อดินเผาลักษณะคล้ายหลวงพ่อโตของอยุธยา พบว่าจำนวนพระมีมากเป็นพระแบบสมาธิเนื้อดินเผา มีหลายสี เป็นพระมีพิมพ์ลึกคมชัดทุกองค์ ปัจจุบันหาพระแท้ๆยากจึงควรแก่การอนุรักษ์เป็นพระเก่าแก่ที่คนโบราณหวงแหน องค์นี้อยู่กับ ดร.นภัสรพี ธนไพศาลพิพัฒน์

 

“พระยอดธง เนื้อเงินพระเกศทองคำ”

 

พระยอดธง ปัจจุบันเป็นพระที่หายากโดยเฉพาะเนื้อทองคำเช่าหาราคาสูง องค์นี้เป็นพระเนื้อเงินพระเกศทองคำ พระยอดธงเป็นพระที่มีชื่อเสียงที่ผ่านการศึกสงครามมาแล้วสร้างขวัญกำลังใจให้กองทัพรบชนะศึก จึงมีความเชื่อมาแต่โบราณว่าจะสามารถปกป้องภยันตรายจากข้าศึกศัตรูเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ใช้ติดตัว เสริมสิริมงคลสูงสุดด้วยมีการเสียบไว้ที่ยอดธงนำทัพ จึงเรียกว่า “พระยอดธง” องค์นี้เนื้อเงิน พระเกศทองคำของ ดร.สรวิชญ์ ทรัพย์สุขสำราญ

“เหรียญปิดตาพังพะกาฬ ปี 32”

 

เหรียญปิดตาพังพะกาฬ  เป็นเหรียญที่ระลึกในการสร้างหลักเมือง นครศรีธรรมราช  เมื่อปี พ.ศ.2532 โดยองค์จตุคามรามเทพได้บอกกล่าวกับท่านสรรเพชร ธรรมมาธิกุล ในวาระประกอบพิธีเขียนผ้ายันต์ให้สร้างพระพังพะกาฬเนื่องจากเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมานาน โดยมีคุณศิริชัย บุญกูล เป็นผู้ออกค่าใช่จ่าย เหรียญพังพะกาฬ ปี 32 สร้าง 3 เนื้อคือ เนื้อทองคำ 47 เหรียญ  เนื้อเงิน 200 เหรียญ  และเนื้อนวโลหะ 12,000 เหรียญ เหรียญพังพะกาฬแบ่งเป็น 2 แบบ แบบเครายาวและแบบเคราสั้น ปัจจุบันเป็นที่นิยมสูง เหรียญพังพะกาฬเนื้อนวโลหะเหรียญนี้เป็นเหรียญบล็อกทองคำ ไม่มีผด ผิวเดิมสวยดูง่ายด้วยเจ้าของเก็บรักษาไว้ดี จัดเป็นเหรียญพังพะกาฬรุ่นแรก ราคาขึ้นแสนไปแล้ว ของ ปู แทนคุณ เจ้าของร้านถ่ายรูปพระเครื่องรูปมีมิติ อยู่ชั้น 7 ขึ้นคอด้วยความศรัทธาและมีประสบการณ์เกิดขึ้นจริง “ขอได้ไหว้รับ”

“พระยอดนิยมของประเทศ พระท่ากระดาน”

 

พระยอดขุนพล ยอดนิยมของประเทศไทยที่มีตำนานเล่าขานถึงว่าสร้างเป็นขวัญกำลังใจให้ทหารทำศึกสงครามยุคนั้น เมืองท่าพระด่านเป็นเมืองเก่าแก่อยู่ริมแม่น้ำแควมีความสำคัญในสมัยอยุธยาคู่กับเมืองกาญจนบุรีเป็นเมืองหน้าด่านการสู้รบกับกองทัพพม่าเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่งของอำเภอศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ในปี พ.ศ.2495 ได้มีการขุดพบพระท่ากระดานได้ตามวัดและถ้ำเป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดง โดยเฉพาะที่วัดกลางหรือวัดท่ากระดานพบพระสนิมแดงปิดทองมาแต่เดิมในกรุทุกองค์ จึงตั้งชื่อพระเครื่องตามวัดที่พบว่า พระท่ากระดาน ต่อมาพบพระท่ากระดานอีกหลายแห่งเช่นที่หน้าถ้ำลั่นทมเรียกพระท่ากระดานกรุถ้ำลั่นทมเป็นต้น พระท่ากระดานองค์นี้อยู่ในความครอบครองของ พ.ต.ท.มณเทียร คัมภีระ โทร.084-5339569

“เหรียญหน้าตั๊กแตนหลวงพ่อมุ่ยวัดดอนไร่”

 

หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิโต พระเกจิชื่อดังแห่งวัดดอนไร่  มีสมณศักดิ์ที่พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ต้นตำรับวัตถุมงคลพระเครื่องดังหลายรุ่นที่หายาก ท่านสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลไว้กว่า 100 พิมพ์  มีทั้งพระบูชา พระเครื่อง เหรียญคณาจารย์ ผ้ายันต์ และธงปิดเป้าของหลวงพ่อ วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เช่น พระสมเด็จสามกษัตริย์เศียรบาตร พระสมเด็จเจดีย์ฐานสิงห์  รูปหล่อเล็ก  เหรียญรุ่นต่างๆ  ผ้ายันต์ ธงมหาราช ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2517 อายุ 86 ปี พรรษาที่ 45 หนึ่งในเหรียญที่จัดว่าหายากเป็นที่นิยม คือเหรียญเสมาพิมพ์หน้าตั๊กแตน สภาพเดิมสวยมากของ นันต์ ท่าพระจันทร์

“พระเปิดตา พังพะกาฬ”

 

 

องค์พระยาศรีมหาราชพังพะกาฬ  “รุ่นเปิดตา” ผลงานชิ้นแรกที่มีดวงตาทิพย์ลอยเด่น ความหมายของคำว่า “เปิดตา” เปิดพระเนตรนั้นมีความว่าในวาระครบรอบ 2 ปี จากปี 2532 รอบนักษัตร เป็นปีแห่งการกำเนิดองค์พ่อจตุคามรามเทพ ที่เรียกว่า เหรียญปิดตาพังพะกาฬ การเปิดตาในทางพระพุทธศาสนาเป็นการเปิดอายตนะทั้ง 6 ในการเข้านิโรธสมาบติปฏิบัติธรรมขั้นสูงตลอด 24 ปีหรือ 2 รอบนักษัตร สมัยพระพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรกก่อนจะแสดงธรรมจะทรงตรวจดูบุคคลที่พอมีกุศลด้วยพระจักษุญาณทิพย์ เพื่อให้บุคคลนั้นบรรลุธรรมเป็นพระอาริยบุคคล การเปิดจักษุทิพยญาณจึงเป็นผลมาก แป๊ะ บางกรวย หนึ่งเดียวที่จัดสร้าง “พระเปิดตา” พังพะกาฬเปิดจักษุทิพญาณ กุศลทั้งหลายถวายกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ สนใจสอบถามบูชา เหรียญเปิดตาพังพะกาฬ ปลุกเสก 2 วาระครบถ้วนแล้ว 6 ส.ค.66 ทั้งที่ ศาลเจ้าเพ่งเง็กตั่ง  ครูบาบุญชุ่ม และครูบาชัยยาปัถพีปลุกเสก และ 22 ต.ค.66 ที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โทร.089-2039353(แป๊ะ บางกรวย ร้านพันธุ์ทิพย์ ชั้น 3 งามวงศ์วาน)

 

“ศูนย์พระรัชดาได้ถ้วยแชมป์ออฟเดอะแชมป์ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร”

 

เสี่ยกุ่ย รัชดา ผู้บริหารศูนย์พระเครื่องรัชดา ส่งพระทองคำเข้าประกวดในงานมหกรรมการประกวดพระเครื่อง ครั้งที่ 22 ของสมาคมส่องพระแท้เมืองสยามจัดที่ห้องแสตมป์ทอง หอประชุมไปรษณีย์ไทย เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธุ์ 67 จำนวน 54 องค์ เพื่อชิงถ้วย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ซึ่งมีถ้วยรางวัลมอบให้กว่า 200 ถ้วยรางวัล  รางวัลสูงสุดได้รับถ้วย CHAMP OF THE CHAMP ผลการตัดสินชี้ขาดจากคณะกรรมการ เสี่ยกุ่ย รัชดา ได้รับรางวัลชนะเลิศ ที่ ๑ สายพระทองคำล้ำค่าทั้งหมด และได้รางวัล ที่ ๑ พระสมเด็จ พระหลวงปู่โต๊ะ อีก ๔ องค์ รวมเป็นรางวัลรวมชนะเลิศยอดเยี่ยมสูงสุดทุกรายการ ได้รับถ้วยรางวัล CHAMP OF THE CHAMP ของท่านพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปครองแต่ผู้เดียว เสี่ยกุ่ย บอกว่า พระทองคำหลายคนไม่เคยเห็น พระทองคำต้องมีกำลังเงินพอที่จะซื้อหาไม่ใช่คอยซื้อพระอยู่ในร้านต้องออกไปสืบหาซื้อมาจากบ้านหรือผู้มีฐานะเก่าดั่งเดิม เช่น พระของคุณอุดม กวัสราภรณ์ อดีตผู้ชำนาญการพระเครื่องอาวุโส เสี่ยกุ่ย ได้เชิญนักสะสมพระเครื่องนำพระมาตรวจเช็คด้วยเครื่องวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์พระรัชดา “ถ้าอยากขายพระให้ขายถูกที่ อย่าขายผิดที่หลักแสนเหลือหลักหมื่น หลักแสนเหลือหลักพัน”