วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:49 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

เจษ เมืองนนท์ : วันพฤหัสบดี ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567, 16.49 น.

พระสมเด็จทองคำ “องค์ฟ้าประทาน” ตอนที่ 1

พระสมเด็จทองคำ “องค์ฟ้าประทาน” ตอนที่ 1  “บ้านเมืองพระเครื่อง” คอลัมน์ สืบสานพระสมเด็จ โดย...เจษ เมืองนนท์

มีตำราเล่าขานมาเนิ่นนานว่า สมเด็จพุฒาจารย์ พรหมรังสี ได้มีการสร้างพระสมเด็จเนื้อทองคำเอาไว้จำนวนหนึ่งในยุคสมัยของท่าน

ในสมัยแห่งรัชกาลที่ 4 นั้น ทองคำมีมูลค่าค่อนข้างสูงมาก การใช้ทองคำมาสร้างเป็นพระสมเด็จ จึงเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ดังนั้น ผู้ที่จะสร้างได้ต้องเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ของบ้านเมืองเท่านั้น และก็ใช่ว่าจะสร้างกันบ่อยๆ ต้องเป็นในวาระพิเศษที่สำคัญยิ่ง และที่เหนืออื่นใดก็คือ จะต้องสร้างให้กับ “บุคคลสำคัญ”  จนมีคำกล่าวว่า การสร้างพระสมเด็จเนื้อทองคำนั้น “สร้างโดยคนสำคัญ ในพิธีสำคัญ และเพื่อบุคคลสำคัญ” เท่านั้น

ในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 4 เกิดเหตุการณ์สำคัญคือการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าซึ่งถือว่าเป็นพระมหากษัตริย์ร่วมสมัย ได้มีการแต่งตั้งทายาทสืบทอดขึ้นดำรงตำแหน่งวังหน้า ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า รัชกาลที่ 4 ได้สวรรคตลง จึงมีการแต่งตั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเป็นรัชกาลที่ 5 ในปี พศ.2411 ในขณะที่พระชนมายุน้อย ซึ่งในโอกาสสำคัญนี้ บุคคลสำคัญอาทิสมเด็จโต เจ้าวังหน้า ตลอดจนข้าราชบริพารจึงพร้อมใจกันจัดสร้างพระสมเด็จเนื้อทองคำถวายเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อยุวกษัตริย์ในวาระการขึ้นครองราชย์

นั่นคือตำราที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนเลือนรางไปตามกาลเวลา แต่กลับเด่นชัดในความทรงจำของผู้กำกับหนุ่มนาม พ.ต.อ สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ (ยศในขณะนั้น)

ด้วยความที่ชื่นชอบในธรรมะและศรัทธาในเจ้าพระคุณสมเด็จโต ผู้กำกับหนุ่มจึงเริ่มศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง พร้อมๆกับเสาะแสวงหาพระสมเด็จเนื้อทองคำอย่างจริงจังจนพบว่า พระที่สร้างในวาระพิเศษนี้ มีจำนวนไม่ถึง 10 องค์ พระราชทานบางส่วนให้กับข้าราชบริพารคนสำคัญ และตกทอดมาถึงลูกหลาน ในขณะที่บางองค์ถูกต่างชาติเช่าไปมอบให้กับบุคคลสำคัญ ดังนั้นจึงเหลืออยู่ไม่มากนัก

กระนั้น..แม้ความหวังจะดูริบหรี่ แต่ผู้กำกับหนุ่มก็ยังไม่ละความพยายามโดยได้รับคำชี้แนะจากพ่อบุญธรรมซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงในกรมการศาสนา และเคยเป็นเลขานุการของบุคคลสำคัญระดับชาติคอยให้คำชี้แนะตลอดมา

แล้ววันหนึ่ง ผู้กำกับหนุ่มก็สมหวัง เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาได้นำพระสมเด็จเนื้อทองคำมามอบให้ สร้างความปลื้มปีติจนเกินบรรยาย เพราะตัวพระนั้นมีสีทองสุกอร่าม องค์พระมีหน้าตาคมชัด ผิวพระมีร่องรอยขรุขระ บ่งบอกให้ทราบว่าเป็นพระที่หล่อจากแม่พิมพ์เนื้อหินลับมีด ตัวพระมีความหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร พอๆกับพระเนื้อผง ด้านหลังกดปาดเป็นรอยกาบหมากอันขรุขระตามกรรมวิธีการสร้างสมเด็จเนื้อผงนั่นเอง

ผู้กำกับหนุ่มขนาดนามพระองค์นี้ว่า “องค์ฟ้าลิขิต”

เมื่อชื่นชมจนเต็มอิ่มแล้ว ผู้กำกับจึงได้นำพระองค์ฟ้าลิขิตนี้ไปให้พ่อบุญธรรมดูเพื่ออวดความงดงามนั้น เมื่อส่องดูไปสักพัก ก็ได้รับคำตอบว่า..

“พระฟ้าลิขิตองค์นี้ไม่ใช่พระสมเด็จเนื้อทองคำทั้งองค์ แต่เป็นพระไส้ในเนื้อทองแดงแล้วเปียกทองหุ้มภายนอก”

 อ้าว...เกิดอะไรขึ้น ???????

 ติดตามได้ในตอนหน้าครับ !