วันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 13:19 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

เจษ เมืองนนท์ : วันศุกร์ ที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 09.29 น.

 เบญจรังสี

บ้านเมืองพระเครื่อง
คอลัมน์ สืบสานพระสมเด็จ
โดย อ.เจษ เมืองนนท์

 ผมได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่น่านับถือท่านหนึ่งได้กรุณาแนะนำว่า พระแต่ละสายนั้น มักจะมีการจัดเป็นชุดเบญจภาคีเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญเกจิ เนื้อชิน ปิดตา ล้วนแต่มีชุดเบญจภาคีทั้งสิ้น ทำไมไม่จัดพระชุดเบญจภาคีพระสมเด็จบ้าง?

 ผู้ใหญ่ท่านนั้นให้เหตุผลว่า สมเด็จพุฒาจารย์ พรหมรังสี ท่านมีเจตนาที่จะสร้างพระสี่เหลี่ยมชิ้นฟักเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและบรรจุเอาไว้ตามวัดต่างๆมากมาย แต่เมื่อมีการค้นพบแล้ว กลับไม่ได้รับการปกป้องรักษาและเชิดชูเท่าที่ควร รวมทั้งยังถูกด้อยค่าจากสายพาณิชย์ ทำให้คุณค่าในองค์พระสมเด็จนั้นลดน้อยถอยลง ในฐานะศิษย์แห่งเจ้าประคุณสมเด็จโต จึงสมควรอย่างยิ่งที่เราจะเทิดทูนพระสมเด็จของท่านด้วยการจัดชุดเบญจภาคีให้ชัดเจนครบถ้วนเพื่อเป็นแก่นแกนในการสะสม เป็นชุด “เบญจรังสี” หน่อเนื้อแห่งพรหมรังสีที่งดงาม
 
พระสมเด็จวัดแรกที่ผู้ใหญ่ใจดีท่านนั้นแนะนำว่าควรจัดเข้าชุดเบญจรังสีคือ สมเด็จวัดระฆัง ซึ่งเป็นพระยอดนิยมอันดับหนึ่งของวงการ ด้วยเกียรติประวัติอันเข้มขลัง และเป็นรากเหง้าแห่งพระสมเด็จ ดังนั้น จึงสมควรยิ่งที่จะจัดให้เป็นพี่ใหญ่แห่งเบญจรังสี

 อันดับสองนั้น เป็นสมเด็จวัดเกศไชโย ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์เจ็ดชั้น หกชั้น หรือพิมพ์อื่นๆ ล้วนแล้วแต่ผ่านการสร้างจากเจ้าประคุณสมเด็จโตโดยตรง รวมทั้งเป็นพระที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในปางบำเพ็ญทุกขกริยาที่หาได้ยากยิ่งในวัดอื่นๆ สมเด็จวัดเกศจึงเป็นพระที่ทรงค่าตลอดมา

อันดับสาม พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นพระที่สร้างขึ้นเพื่อสืบทอด 84,000 พระธรรมขันธ์ บรรจุกรุไว้ที่วัดบางขุนพรหม และมีการเปิดกรุในปี พศ.2500 โดยบางส่วนทางวัดได้เปิดให้เช่าบูชา และอีกบางส่วนนั้นได้ถูกนำขึ้นไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านสามฤดูของจอมพล ประภาส จารุเสถียรในจังหวัดลำปาง ต่อมาพระชุดลำปางนี้ได้กระจายไปถวายตามวัดต่างๆในภาคเหนือ และได้รับการเปิดเผยขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จของทางวัดหรือพระสมเด็จที่ลำปาง ล้วนมีที่มาจากกรุในวัดบางขุนพรหมทั้งสิ้น จึงเป็นพระสมเด็จที่ทรงคุณค่าอีกวัดหนึ่งในชุดเบญจรังสี

อันดับสี่ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ พระสมเด็จวัดสะตือ จังหวัดอยุธยา เป็นพระที่มีประวัติชัดเจนยาวนาน และถูกโจมตีหนักที่สุดในบรรดาพระกรุต่างๆ แต่ไม่ว่าจะถูกโจมตีจากสายพาณิชย์หนักแค่ไหน ความนิยมกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นพื้นฐานการสะสมของคนเล่นพระว่าหากจะเล่นพระสมเด็จต้องมีวัดสะตือเป็นองค์ครูอย่างน้อยหนึ่งองค์ พระกรุนี้จึงถือเป็นพระดีที่คู่ควรกับชุดเบญจรังสีอย่างยิ่ง

 อันดับท้ายสุดแต่มาแรงในชั่วโมงนี้คือพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูล อ่างทอง เป็นพระที่ค้นพบในกรุพระนอนวัดขุนอินทประมูลที่ห่างจากวัดเกศไชโยไม่มากนัก และมีประวัติเกี่ยวข้องกับสมเด็จโตและรัชกาลที่ 5 ซึ่งแรกๆที่เปิดกรุนั้น ถูกปิดกั้นจากสายพาณิชย์พอสมควร แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความนิยมของสมเด็จกรุขุนอินท์กลับเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ทลายกำแพงกั้น ทะยานขึ้นสู่ทำเนียบพระสมเด็จเบญจรังสีได้อย่างงดงาม

 ทั้งหมดนั้นคือข้อแนะนำอันทรงคุณค่าจากผู้ใหญ่ใจดีของวงการท่านหนึ่ง ถือเป็นจุดเริ่มของ “พระสมเด็จเบญจรังสี” พระดีที่ทรงคุณค่าแห่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ พรหมรังสี อัคราจารย์แห่งวงการพระเครื่องเมืองไทย