วันจันทร์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:59 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

เจษ เมืองนนท์ : วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 09.23 น.

 จอมพล ป.เปิดกรุวัดสะตือจริงหรือ?

สำหรับ “สืบสานพระสมเด็จ” ในบ้านเมืองฉบับนี้ จะพูดถึงเรื่องพระสมเด็จวัดสะตือ พระดีที่น่าศึกษากันครับ 

พระสมเด็จกรุวัดสะตือเป็นพระที่บรรจุในองค์พระพุทธไสยาสน์ และพระเจดีย์ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2414 ก่อนที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต จะมรณภาพ 1 ปี เพื่อระลึกถึงโยมมารดาของท่านเอง โดยได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธไสยาสน์ ณ หมู่บ้านที่ถือกำเนิดที่วัดท่างาม ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งพระนอนใหญ่มีขนาด ยาว 52 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 16 เมตร องค์พระโปร่ง(ซึ่งใช้เป็นที่บรรจุพระไว้ภายใน)

มีตำราเล่าขานกันว่า พระสมเด็จกรุวัดสะตือถูกค้นพบเมื่อ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปิดทองพระนอนวัดสะตือซึ่งเวลานั้นพระนอนอยู่ในสภาพทรุดโทรมมากเนื่องจากวัดอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก และถูกน้ำท่วมเกือบทุกปี จึงบัญชาการให้กรมโยธาเทศบาลได้จัดการปฏิสังขรณ์พระนอนใหม่เมื่อ พ.ศ. 2499 จึงได้พบพระสมเด็จพิมพ์ต่างๆ บรรจุอยู่  แต่ด้วยในสมัยนั้นพระสมเด็จวัดระฆังยังไม่ได้เป็นที่นิยมโดยทั่วไปเยี่ยงในปัจจุบันนี้ จึงไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โต และไม่ได้มีผู้สนใจอยากได้พระสมเด็จที่ถูกพบดังกล่าว พระสมเด็จที่ถูกค้นพบในขณะนั้นจึงได้มีการแจกจ่ายเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบูรณะในขณะนั้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีชื่อเสียงในสมัยนั้นเท่านั้น และต่อมาพระชุดนี้ที่ก็ได้ตกทอดสู่ทายาท และมีการนำมาเปิดเผยในเวลาต่อมา

ข้อสงสัยก็คือบุคคลระดับ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้นมาเปิดกรุ ทำไมทางวัดไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยบรรจุลงในประวัติวัดเลย?

เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ด้วยอนาคตังสญาณท่านได้กล่าวไว้ตั้งแต่ท่านยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่ว่า "พระสมเด็จของท่านนั้น ต่อไปจะหายาก" ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะพระสมเด็จที่ท่านสร้างไว้ได้ถูกยกย่องให้เป็นจักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง ได้รับความนิยมสูงสุด มีคนแสวงหากันมากมาย จึงได้มีผู้ที่นำเอากระแสความนิยมนี้ไปทำพระเลียนแบบขึ้นมากแทบจะกล่าวได้ว่ามากเป็นอันดับหนึ่งไปเลย จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาพระของจริงที่เจ้าประคุณท่านได้สร้างไว้มาบูชา กอร์ปกับผู้ที่มีพระแท้ในมือก็พยายามจะใช้กลวิธีต่างๆ ที่จะทำให้พระของท่านมีมูลค่าสูงมากๆ ขึ้นไปอีก ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้ พระสมเด็จที่ท่านได้สร้างไว้อย่างมากมายก็เลยกลายเป็นสิ่งหายากไปตามคำที่ท่านได้ทำนายไว้

แต่เจ้าประคุณสมเด็จท่านก็ได้กล่าวไว้อีกว่า  " พระสมเด็จที่ท่านสร้าง มีมากพอสำหรับทุกคนที่มีศรัทธา "  คำทำนายนี้ของท่านก็เป็นจริงอีกเช่นกัน เพราะได้มีครูบาอาจารย์ผู้รู้จริงทั้งหลายที่มีศรัทธาต้องการจะอนุรักษ์ และไม่เห็นด้วยกับการกำหนดมาตรฐาน สากลอะไรในเชิงพุทธพาณิชย์ ได้พยายามศึกษาค้นคว้า และเปิดเผยแพร่ความจริงต่างๆ เกี่ยวกับพระสมเด็จของเจ้าประคุณท่านให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่มีศรัทธาในพระสมเด็จตลอดมา จนพระสมเด็จแท้ๆ ไม่ได้เป็นที่หายากจนไกลเกินจะเอื้อมถึงอย่างที่คนบางกลุ่มพยายามจะทำให้เป็น ดังนั้นพระสมเด็จของท่านที่บรรจุไว้ในกรุต่างๆ ทั้งกรุวัดสะตือพุทธไสยาสน์ กรุขุนอินทประมูล และกรุวัดอื่นๆ จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยไม่สนใจว่าเซียนพาณิชย์จะยอมรับหรือไม่ก็ตาม 
**แต่ประเด็นที่น่านำมาปุจฉาก็คือ ที่ลือเล่ากันว่า จอมพล ป.นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เปิดกรุพระสมเด็จวัดสะตือนั้น จริงหรือไม่? และหากเปิดกรุจริง เป็นงานใหญ่ระดับที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เปิด ทำไมทางวัดไม่ทราบเรื่อง?**

***หรือจอมพล ป.ไม่ได้เปิดกรุวัดสะตือตามที่เล่าลือกัน?***

ปุจฉานี้มีคำตอบอย่างแน่นอนในการอบรมวิชาชีพชุด “เบญจพรหมรังสี” ที่วิทยาลัยสารพัดช่างสระบุรี ในทุกเสาร์ของเดือนมิถุนายนนี้ รวมทั้งหากมีข้อสงสัยในพระสมเด็จที่ครอบครองอยู่ ก็จะมีคณาจารย์มาทำการตรวจสอบพระสมเด็จของผู้เข้าอบรมให้ฟรีอีกด้วย หากท่านใดสนใจเข้าร่วมอบรม ก็ติดต่อได้ที่เบอร์ 088-758-0475, 089-901-7799, 064-938-4655 รีบหน่อยนะครับ เพราะรับจำนวนจำกัดเท่านั้น