สบายๆสไตล์พระเครื่อง! สืบสานพระสมเด็จอ.เจษ เมืองนนท์

ท่ามกลางฝนฉ่ำพร่ำพราวทั่วไทยในช่วงนี้ สร้างความชุ่มฉ่ำให้กับเกษตรกรได้ปักดำทำนากันอย่างทั่วหน้า แม้ว่าจะเป็นการทำไร่ทำนาลงทุนร่วมกับเทวดา(ที่ไม่ค่อยรับผิดชอบต่อหน้าที่นักก็ตาม) แต่ก็เป็นอาชีพเดียวที่ชาวนาจะทำได้ การมีน้ำมีฝน จึงเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้สดชื่นขึ้นอีกครั้ง  สืบสานพระสมเด็จฉบับนี้ จึงขอคุยสบายๆในวันฝนพรำครับ
 
เรื่องแรกที่อยากจะบอกกล่าวกันก็คือ งานประกวดดีมีคุณภาพในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยใช้ชื่องานว่า “มหกรรมอนุรักษ์ประกวดพระเครื่องพระบูชาเหรียญคณาจารย์และเครื่องรางของขลังทั่วประเทศ” ฟังชื่อแล้วยาวพอสมควร ก็จำง่ายๆว่า “มหกรรมประกวดพระเครื่อง” ก็แล้วกัน ซึ่งผู้จัดคือ อาจารย์ ยงยุทธ นิฐินันท์กุล และประธานกรรมการตัดสินคือ อาจารย์ เกษม บุญขจร พี่ใหญ่ของวงการ โดยมี อาจารย์ วสันต์ มงคลลาภกิจ และ พลเรือตรี ไพฑูรย์ ปัญญสิน เป็นที่ปรึกษา

หากถามว่าน่าไปร่วมประกวดมั้ย..น่าสนใจมากครับ เพราะเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ผู้จัด ประธานกรรมการ รวมทั้งกรรมการระดับแถวหน้าของวงการ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เอก บางปะหัน หรือ อาจารย์สนอง เมืองสุรินทร์ รวมทั้งกรรมการท่านอื่นๆ ล้วนแล้วแต่คุณภาพคับแก้วทั้งสิ้น โดยงานนี้จัดขึ้นที่ห้องแสตมป์ทอง ไปรษณีย์ไทย หลักสี่ ในวันที่ 4 สค.นี้ครับ
 เรื่องถัดมาที่อยากจะคุยกันสบายๆก็คือกระแสของการค้าขายที่สวนทางกันระหว่างพ่อค้าพระในห้าง กับพ่อค้าพระตลาดนัด

ในช่วงที่ผ่านมานั้น บรรดาพี่น้องชาวพระเครื่องตลาดนัดต่างบ่นกันโอดโอยว่าพระขายยาก ขายไม่ได้ โดยเฉพาะพระหลัก แทบจะหายไปจากตลาด ทั้งปัจจัยจากเศรษฐกิจ ทั้งปริมาณเงินในกระเป๋าที่ไม่เอื้ออำนวยให้เช่าพระ

 นั่นคือกระแสตกต่ำในช่วงที่ผ่านมาครับ แต่ตอนนี้เท่าที่ได้คุยกับพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดนั้น หลายเสียงบอกเริ่มดีขึ้นครับ พระต่างๆเริ่มมีผู้เช่ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งหากราคาหลักร้อยไม่เกินพัน ก็จะขายได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถือว่าเป็นแนวโน้มในด้านบวกมากกว่าเดิม และเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆครับ

 ในขณะที่แนวโน้มตลาดล่างกำลังดีขึ้น แนวโน้มในตลาดบนกลับสวนทางลง..

 ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับพรรคพวกที่พันทิปท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้การค้าขายในตลาดบนเงียบเหงามาก แทบจะไม่มีคนเดิน ส่วนการขายพระนั้น แทบจะไม่มีคนมาถามเลย พระหลักๆที่เคยขายได้แพงๆ ตอนนี้วางแน่นเต็มตู้เพราะปล่อยไม่ออก ส่วนการซื้อเข้านั้น ก็พยายามจะเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะที่มีก็มากจนล้นตู้แล้ว

 มันก็น่าจะจริงของเขา เพราะตอนนี้ บรรดาเซียนตลาดบนก็ได้แก้ไขด้วยการมูฟออนจากบนห้างมาเปิดร้านที่ข้างล่างสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาเพื่อไม่ต้องแข่งขันกับใคร รวมทั้งเก็บพระหลักเข้าเซฟแล้วหันมาสร้างพระใหม่ๆขายเพื่อแก้ปัญหาความซบเซา ซึ่งก็ถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีเพื่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจยามนี้

 ในฐานะนักสะสมวงการเดียวกัน ก็ขอให้กำลังใจทั้งกลุ่มตลาดบนและตลาดล่างนะครับ ขอให้ผ่านวิกฤติและกลับมาฟูเฟื่องร่ำรวยกันทุกๆคนนะครับ
 อย่าเพิ่งทิ้งแผงพระไปรับจ็อบล่าปลาหมอคางดำซะก่อนล่ะ..อยู่แบบ มีริ้น มีไร มีเขียด มีสังกะสี ไปพร้อมๆกันก่อนนะครับ 555..!!!