วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 11:45 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

เจษ เมืองนนท์ : วันพุธ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 17.30 น.

แยกพระตามตำรา “บ้านเมืองพระเครื่อง” สืบสานพระสมเด็จ โดย อ.เจษ เมืองนนท์

แยกพระตามตำรา “บ้านเมืองพระเครื่อง” สืบสานพระสมเด็จ โดย อ.เจษ เมืองนนท์

อาจารย์ ตรียัมปวาย ท่านได้รวบรวมลักษณะพระปลอมไว้ดังนี้

“ ลักษณะพระสมเด็จปลอมที่ไม่ควรเสียเวลาในการพิจารณา

บางทีผู้ศึกษาอาจมีความรู้สึกทึ่ง ไม่ค่อยเชื่อใจเมื่อได้เห็นการพิจารณาพระเครื่องของนักพระเครื่องที่ชำนาญบางคน ซึ่งพอเห็นพระแต่ไกล เขาก็บอกได้ทันทีว่าเป็นของแท้หรือปลอม ความจริงก็ไม่ใช่ความเก่งกาจหรือลี้ลับอะไรนัก ทั้งนี้เป็นเพราะเขามีนัยตาเคยชินกับพระเครื่องชนิดนั้นมาอย่างจำเจในลักษณะที่เรียกว่าหลับตานึกภาพได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพิจารณาในแง่ของปลอมด้วยแล้ว ยิ่งเป็นการสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะได้เคยเห็นพระปลอมนั้นๆเสียจนจำได้แม่นยำ เพราะพอมองเห็นเพียงแค่ชำเรือง ก็ตอบได้ทันที พระสมเด็จซึ่งมีลักษณะส่วนใหญ่ที่พอมองเห็นก็ตัดสินได้ทันทีว่าเป็นของปลอมมีดังนี้

๑.พระที่มีปริมาตรขนาดใหญ่ๆ บางองค์มีขนาดเกือบเท่าซองบุหรี่หรือใหญ่กว่า

๒.รูปเจ้าพระคุณสมเด็จ ทั้งชนิดแบบแบนหรือแบบลอยตัว บางองค์มีกริ่งภายใน วรรณะคล้ำเพราะแช่น้ำหมาก ที่เคยปรากฎเป็นรูปเจ้าพระคุณตามรูป ๑-๒ อย่าลืมว่าเจ้าพระคุณสมเด็จโตไม่เคยสร้างรูปตัวเอง

๓.แบบทำเป็นรูปตราแผ่นดิน มีหลายขนาด วรรณะคล้ำๆเพราะใช้ยางไม้หรือน้ำหมากย้อม

๔.ทุกแบบที่มีอักษรจารึกไว้ด้านหลังหรือด้านหน้า ทำเป็นว่าเป็นลายมือของเจ้าพระคุณสมเด็จโตจารึกไว้ เช่น "สมเด็จโตถวายพระจอมเกล้า" "เป็นที่ระลึกแด่เจ้าสัว........เนื่องในงานแซยิด""ถวายเจ้าฟ้า......เนื่องในงานโสกันต์"(โกนผมไฟ) และถวายเมื่อ รศ....อะไรทำนองนี้ ซึ่งปัดออกไปได้ทันทีว่าเป็นของปลอม”

นั่นคือบทสรุปที่คัดลอกมาจากตำราของท่านอาจารย์ตรียัมปวาย หากมีการขัดอกขัดใจ ก็ขอให้หาเหตุผลไปขัดแย้งกับท่านเองนะครับ เพราะคัดลอกมาจากตำราของท่านทุกตัวอักษร มิได้เขียนขึ้นมาเองใดๆทั้งสิ้น

ในปัจจุบัน พระสมเด็จมีราคาค่อนข้างสูง จึงมีการคิดค้นแนวทางใหม่ๆเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า แต่ก็ส่งผลเสียต่อวงการโดยรวม และที่เสียหายมากที่สุดคือบรรดามือใหม่ที่เพิ่งเริ่มศึกษาที่มักจะหลงทางไปกับนิยายต่างๆที่เล่าขานกัน ลองมาดูกันครับว่าพระปลอมในความหมายของท่านตรียัมปวายได้พัฒนาแตกยอดไปถึงไหนกันแล้ว

1.พระสมเด็จหลังภาษาจีน เล่าลือกันว่าสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ประจำตระกูลของเจ้าสัว ซึ่งท่านตรียัมปวายระบุชัดว่า..ไม่มี

2.พระสมเด็จหลังจาร พศ.2404 หรือ ขรัวโต หรือ รศ.

3.หลังดอกพิกุลหรือดอกโบตั๋น

4.หลังเหรียญ คือการนำเงินเหรียญไปติดที่หลังพระ

5.พระสมเด็จหลังก้างปลา

6.พระสมเด็จหลังตราครุฑ

7.พระสมเด็จแจวเรือจ้าง โดยวิสัยแล้ว สมเด็จโตท่านจะไม่สร้างพระรูปตัวเอง พระสมเด็จแจวเรือจ้างจึงเป็นเพียงมโนของคนทำพระปลอมเพื่อไว้หลอกมือใหม่เท่านั้น

8.โค๊ดลับทั้งหน้าและหลัง

ทั้งหมดนั้นคือวิวัฒนาการของพระสมเด็จปลอม ซึ่งไม่เคยมีในตำราของท่านตรียัมปวายเลย แต่ก็มีการเผยแพร่มาอย่างยาวนาน ซึ่งหากเรายึดถือตามแนวทางของครูบาอาจารย์แล้ว เราก็จะคัดพระออกได้ในระดับหนึ่ง เป็นการป้องกันตัวในเบื้องต้น หลังจากนั้นจึงค่อยศึกษาเรื่องพิมพ์และเนื้อต่อไป

นอกเหนือจากพระลวดลายดังกล่าวแล้ว ตอนนี้ที่ฮือฮากันมากคือ "พระสมเด็จหีบ" ที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในการเปิดหีบแต่ละครั้ง คำถามก็คือ "พระสมเด็จหีบ" ทำไมมีมากมายขนาดนั้น ในขณะที่บางคนกว่าจะหาแท้ๆได้สักองค์ ก็เหนื่อยจนเลือดตาแทบกระเด็น แต่ ”พระสมเด็จหีบ”กลับมีนับแสนนับล้านองค์แบบง่ายๆ ไม่สงสัยกันบ้างหรือว่ามาจากไหน?