วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568 15:35 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

เจษ เมืองนนท์ : วันพฤหัสบดี ที่ 05 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 17.06 น.

“บัติ สิงห์บุรี” เซียนดังแห่งเมืองสิงห์

“บัติ สิงห์บุรี” เซียนดังแห่งเมืองสิงห์ “สืบสานพระสมเด็จ” บ้านเมืองพระเครื่อง โดย..อ.เจษ เมืองนนท์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้รับการเชิญชวนจากอาจารย์ บัติ สิงห์บุรี ให้ไปเยี่ยมชมตลาดนัดพระเครื่องที่วัดสังฆราชา จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งนับเป็นตลาดพระที่คึกคักอย่างยิ่ง โต๊ะแดงที่ไปตั้งนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่นำพระสะสมมาวางขาย จึงมีทั้งพระหลุดและพระแท้เป็นส่วนมาก ต่างจากตลาดพระขายส่งอย่างสิ้นเชิง หากใครว่างก็ลองไปเดินวัดสายตากันได้ทุกวันอาทิตย์ครับ

สำหรับอาจารย์ บัติ สิงห์บุรีนั้น ท่านเป็นเซียนพระในระดับแถวหน้าของพื้นที่ ด้วยอุปนิสัยที่สมถะเรียบง่าย อาจารย์บัติได้รับการยอมรับว่าเป็นเซียนที่ดูพระแม่น รวมทั้งยังเป็น"มือเหมาพระบ้าน"ที่ใจถึง กล้าได้กล้าเสีย และพร้อมที่จะกวาดหมดรัง ยกใส่รถบรรทุกกลับทั้งหมด โดยมี เจ สิงห์บุรี ลูกชายเป็นผู้ช่วยเหลือ

หลังจากทักทายกันแล้ว ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันสบายๆ โดยเมื่อถามถึงสถานการณ์ทั่วๆไปของวงการพระเครื่อง คำตอบที่ได้รับจากอาจารย์บัติก็คือ..ค่อนข้างเงียบครับ..

ซึ่งสาเหตุที่ค่อนข้างเงียบก็คือ

1.สภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย การค้าขายฝืดเคือง คนจึงใช้จ่ายเงินเพื่อการกินอยู่มากกว่าสะสมพระ

2.มีการสร้างพระปลอมออกมามากมหาศาล ทั้งพระหีบ พระไห พระถอดพิมพ์ พระแปลกๆ จนทำให้คนเข็ดขยาดไม่กล้าซื้อพระเพราะโดนจนแหยง

3.ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่นี้ พระเก่าราคาสูงจึงค่อนข้างปล่อยยาก คนจึงหันมาเล่นพระใหม่ราคาเบาๆที่เหมาะสมกับเงินที่มีน้อย

4.ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้กระทบเพียงตลาดล่างเท่านั้น แต่กระทบถึงเซียนห้างทั้งหมด เพราะในปัจจุบัน พระราคาหลักสิบล้านแทบจะขายกันไม่ได้ บรรดาเซียนห้างทั้งหลายจึงหันมาปั่นพระใหม่เพื่อขายประทังรายจ่าย แต่ขึ้นชื่อว่าพระใหม่ มักจะเล่นชั่วครู่ชั่วยาม พอหมดรุ่นนี้ก็ต้องปั่นรุ่นใหม่ต่อไป การคงอยู่ในความนิยมก็จะจางหายไปตามแรงปั่น นักสะสมจึงเริ่มที่จะระวังตัวไม่ตามกระแสปั่น

5.เมื่อนักสะสมเริ่มระวังตัวมากขึ้น ไม่หลงตามกระแสปั่นของเซียนดัง จึงต้องหาวิธีสร้างกระแสใหม่ด้วยการปั้นฆราวาสชื่อดังมาแทนที่ ยกตัวอย่างเช่น แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งก็ได้ผลดีในระดับหนึ่ง ตอนนี้ก็เริ่มจะปั้นจตุคามรามเทพให้พลิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง

6.หากมองกระแสโดยรวมแล้ว การสร้างกระแสพระใหม่ ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลกระทบต่อพระหลักราคาสูงมากเท่านั้น เพราะพระหลักมีราคาสูง ทำให้ปล่อยยากยิ่งกว่าเดิม และหากทอดเวลาเนิ่นนานออกไป พระหลักก็จะหายไป เหลือเพียงพระใหม่ที่วูบวาบครองตลาดตามกระแสปั่น

นี่คือมุมมองของอาจารย์บัติ สิงห์บุรี ที่มีต่อสถานการณ์วงการพระเครื่องในปัจจุบัน ซึ่งด้วยประสบการณ์ในระดับแถวหน้าของเมืองสิงห์แล้ว ก็น่าจะเป็นแนวทางให้กับนักสะสมได้พิจารณาในการเลือกหาสะสมได้เป็นอย่างดีว่าควรจะเล่นพระแนวไหนถึงจะไม่หลงไปในกระแสให้เจ็บตัว

ศึกษาก่อนสะสม จะปลอดภัยที่สุดครับ..!!