ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน  นำโดย น.ส.มัลลิกา  จีนาคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน  ร่วมกับชุมชนป๊อกต่าง ๆและชุมชนหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวน  11 ชุมชนตลอดจนสถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองเข้าร่วม จัดกิจกรรมประเพณีแห่จองพารา หรือประสาทพระ เนื่องในงานเทศกาลออกพรรษา ( ปอยเหลินสิบเอ็ด) ซึ่งเป็นประเพณีอันเก่าแก่ของชาวไทยใหญ่ ที่เคยจัดกันมาแต่ครั้งโบราณกาล โดยมีนายเชษฐา  โมสิกรัตน์  พ่อเมืองแม่ฮ่องสอนเข้าร่วมด้วย วันออกพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งซึ่งเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงทางบันไดแก้ว บันไดทอง บันไดเงิน หลังจากแสดงธรรม โปรดพระมารดา บรรดาสิงห์สาสัตว์ในมนุษย์โลกทั้งนรกสวรรค์จะมองเห็นซึ่งกันและกัน จึงได้เรียกกันว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” 
    
พุทธศาสนิกชนชาวพุทธทุกชนเผ่า ต่างร่วมกันจัดกิจกรรมในวันเทศกาลออกพรรษา โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทใหญ่ก่อนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 สองวันทางภาษาไทใหญ่เรียกกันว่า  “วันตุงพิ้ด” จะมีการแห่จองพาราโดยจัดให้มีขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่และสวยงามไปตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลเมือง ถึงแม้นฟ้าฝนจะไม่อำนวย  พอถึงวันขึ้น 14 ค่ำเดือนสิบเอ็ด ทางภาษาไทใหญ่เขาเรียกกันว่า  “ วันพิ้ด ” หรือวันกล  ประชาชนจะเริ่มจับจ่ายซื้อสิ่งของเพื่อนำไปเซ่นไหว้ยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อย่างเช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง   ท้าวสี่ทิศ ส่วนแม่ค้า แม่ขาย ก็จะนำกระทงใบตอง สำหรับใส่สิ่งของเซ่นไหว้  ดอกไม้สดเพื่อนำไปถวายพระในวันขึ้น 15 ค่ำ เพ็ญ 15 ค่ำ เดือนสิบเอ็ด ซึ่งเป็นวันออกพรรษา  ภาคเช้าก็จะทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสามาเณร ( ตักบาตรเทโว ) บ้างก็จะไปทำบุญถวายจัตตุปัจจัยเครื่องไทยทานตามพระอาราม หรือสำนักสงฆ์ ฟังเทศฟังธรรม จากพระสงฆ์ในวันออกพรรษาเพื่อเกลาจิตใจให้สงบตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดี พอตกเย็นของวันขึ้น 15 ค่ำ ในแต่ละพื้นที่ชนบท หรือเทศบาลตำบล  หมู่บ้าน ตามชนบท  ที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้อย่างเหนียวแน่น ก็จะจัดให้มีการแห่ต้นเกี๊ยะ หรือเทียนพันเล่ม เพื่อนำไปถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา  สังฆบูชา ตามวัดหรือสำนักสงฆ์ ให้ครบทุกวัดตามที่มีอยู่ เป็นอันสิ้นสุดของการทำบุญในวันออกพรรษาของชาวไทใหญ่