เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567  เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศของโรงพยาบาลพรเจริญ จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ระบุว่า "ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2567 โรงพยาบาลพรเจริญ จะมีแพทย์ประจำเหลือ 1 คน..." นั้น ทำให้สื่อสังคมออนไลน์ นำเรื่องราวไปโพสต์ต่อในโลกโซเซียล จนเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์ ต่อระบบสาธารณสุข

ล่าสุดทาง โรงพยาบาลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ได้โพสต์แก้ไขข้อความว่า ระหว่างวันที่ 27 – 31 พ.ค. ยังสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ตามปกติ ตามประกาศ ระบุว่า "โรงพยาบาลพรเจริญจึงได้กำหนดให้มีแนวทางแก้ปัญหาการให้บริการดังนี้

1. ประสานยืมแพทย์ช่วยตรวจจากโรงพยาบาลข้างเคียง

2. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวาน,ความดันโลหิตสูง,สุขภาพจิต,ไทรอยด์) ที่มีนัดในช่วงดังกล่าว ผู้ป่วยสามารถมารับบริการได้ตามปกติ โดยหากผลตรวจปกติ หรืออาการป่วยคงที่พยาบาลวิชาชีพจะสั่งยาเดิมให้ (ไม่ต้องพบแพทย์) และจะปรึกษาแพทย์ในรายที่มีผลเลือดผิดปกติ หรืออาการผิดปกติเท่านั้น

3. ผู้ป่วยคลอดและอุบัติเหตุฉุกเฉินให้บริการ 24 ชั่วโมง

ตามประกาศดังกล่าว โรงพยาบาลพรเจริญ ยืนยันว่า "โรงพยาบาลจะให้บริการได้ตามปกติตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป"

นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า ในข่าวของโรงพยาบาลพรเจริญที่แชร์ออกไปว่าจะมีการปิดให้บริการนั้น เกิดจากความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งความเป็นจริงแล้วก็คือในห้วง 27-31 พ.ค. จะเหลือคุณหมอเพียง 1 คนจริง เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อที่หมอประจำจะย้ายกลับบ้าน หรือย้ายไปเรียนต่อ ส่วนหนึ่งก็ลาออกไป แต่ว่าทางโรงพยาบาลร่วมกับชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่ง ประสานจะยืมแพทย์ทั้งในโรงพยาบาลจังหวัดบึงกาฬ และโรงพยาบาลจังหวัดใกล้เคียง เช่น หนองคาย สกลนคร นครพนม มาช่วยตรวจในห้วงเวลาดังกล่าว ในช่วงที่เกิดวิกฤติ

ซึ่งก็ยืนยันสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ แต่อาจจะมีความล่าช้าไปบ้างในห้วงเวลาดังกล่าว และการให้บริการจะดีขึ้นและเต็มที่ตามปกติตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากจะมีหมอที่มาใหม่ เริ่มมาทำงานในวันที่ 1 มิ.ย.

ในส่วนของการแพทย์ฉุกเฉิน ก็จะมีแพทย์เวรประจำอยู่แล้ว และแพทย์ที่ยืมมาช่วยก็จะมาช่วยอยู่เวรกับคุณหมอประจำที่เหลืออยู่ เพื่อไม่ให้หมอเหน็ดเหนื่อยเกินไป ส่วนพยาบาลกับทีมงานก็ขึ้นเวรเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมนี้ จะยังขาดแคลนแพทย์อยู่ ในโรงพยาบาลชุมชนทั้ง 7 อำเภอ

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณกรทรวงสาธารณสุข ที่ได้เติมหมอเข้ามาในเขตตรวจสุขภาพที่ 8 และจังหวัดบึงกาฬอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากวันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป ภาพรวมของการขาดแคลนแพทย์ก็จะดีขึ้น คือดีกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ค่อนข้างมาก ในส่วนของแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดเล็ก เช่น รพ.ปากคาด รพ.ศรีวิไล รพ.พรเจริญ รพ.บึงโขงหลง แต่ละอำเภอจะมีประชากรประมาณ 40,000 - 50,000 คน แต่เดิมจะมีหมออยู่ประมาณ 3 - 4 คน บางที่ก็ 5 คน ดูแลประชากร 1/10,000 คน ซึ่งในช่วงปลายเดือน พ.ค.จะมีหมอไปเรียนต่อขอลาเก็บข้าวเก็บของย้ายสถานที่ทำงาน ช่วงนั้นจะขาดไปอาทิตย์หนึ่ง ซึ่งเจอปัญหานี้ทุกปี แล้วแต่ว่าจะขาดมากหรือน้อย

ดังนั้นในส่วนของการให้บริการ แพทย์พยาบาล ของโรงพยาบาลชุมชน และในโรงพยาบาลบึงกาฬ ก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้หมอเราจะมีน้อย แต่เราก็ตั้งใจทำงานกันทุกคน บางช่วงอาจจะมีการขาดแคลนไปบ้าง แต่เราก็พยายามให้หมอจากจังหวัดต่างๆลงมาช่วย ทีมพยาบาลที่มีอยู่ก็ช่วยสแกนคนไข้เพื่อให้เข้าตรวจโรคได้อย่างเต็มที่

นพ.ภมร กล่าวอีกว่า ก็ขอให้ความเชื่อมั่นว่าเราจะดูแลพี่น้องประชาชนคนบึงกาฬอย่างเต็มที่ และตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป เราก็จะมีหมอมากขึ้นสัญญาว่าจะให้บริการดีขึ้นกว่าเดิมครับ นพ.สสจ.กล่าวฯ .. ด้าน 2 ตายาย ที่เป็นคนไข้มารอตรวจรักษา ซึ่งหมอรอผลการตรวจเลือดและนัดตรวจในช่วงบ่ายวันนี้ กล่าวว่า ก็ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าจะเหลือหมอเพียงคนเดียว แต่ก็ไม่วิตกกังวลใดๆ เพราะเป็นคนไข้ประจำมาหาหมอตามนัด และมียากินอยู่แล้ว ธรรมดามีหมอมาก็หมอไป ชินแล้ว เราก็เพียงหาหมอตามนัดแค่นั้น การให้บริการถึงจะช้าบ้างแต่ก็เข้าใจ เพราะหาหมอก็ใช้เวลาทั้งวันอยู่แล้ว