วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 03:17 น.

อาชญากรรม

ตร.แม่ฮ่องสอนหิ้วสองหนุ่มมือกราดยิงมั่วในงานสงกรานต์ทำแผน

วันพุธ ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2567, 11.53 น.

เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 เเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหา หนุ่มอิสานคือนายฉลองชัย สงวนนามสกุล  (หรือนายโก้) อายุ 27 ปี  พร้อมด้วยนายสัตยา   สงวนนามสกุล  (หรือนายกอล์ฟ) อายุ 28 ปี  ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าโรงแรมใบหยกชาเล่ต์ ถนนชำนาญสถิต ตำบลจองคำ หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงสาดเข้าใส่กลุ่มผู้คนในงานสงกรานต์ หลังจากที่เกิดการเขม่นกันในงานแสดงคอนเสิร์ต ที่ถนนข้าวปุก ซึ่งทางเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนจัดขึ้น จนทำให้มีผู้ถูกลูกหลง 2 ราย คือนางสาวพลอย อายุ 17 ปี ถูกกระสุนเข้าบริเวณหน้าท้องทะลุหลัง กระสุนตัดเข้าลำไส้ใหญ่และตับอ่อนอาการสาหัสถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่  และอีกคนคือนายอมร อายุ 32 ปี ถูกกระสุนเข้าบริเวณหัวเข่าด้านขวา อาการบาดเจ็บไม่มากนัก ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.40 น.ของคืนวันที่ 14 เม.ย 2567 ที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 5 ตามจับกุมตัวได้ทั้งคู่ได้ที่สถานีผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 เม.ย. 67 ขณะนั่งรถทัวร์เพื่อที่จะหลบหนีไปกบดานที่ภาคอิสาน


     

พ.ต.อ. พลชัย  กิจกุลธนันต์  รักษาการผู้กำกับการ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวว่า  หลังผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพ ได้นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม 3 จุด จุดแรกคือจุดเกิดเหตุที่มีการสาดกระสุนยิงงานวันสงกรานต์จำนวน 3 นัด จุดที่สองคือจุดที่มีการทะเลาะวิวาทก่อนก่อเหตุ  และจุดที่ 3  ที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่กลับไปเอาปืนมาก่อ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพยามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  ทั้งนี้รักษาการฯ ผู้กำกับ   กล่าวย้ำว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้พกพาอาวุธปืนติดตัวมาในงาน แต่หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทแล้วค่อยไปเอาปืนที่บ้านกลับมาก่อเหตุ  ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง  และเรื่องแก๊งเงินกู้ แต่เป็นเรื่องของหนุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทเขม่นกันแค่นั้นเอง 

อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ชาวแม่ฮ่องสอนต่างอึ้งเมื่อพบว่า การปล่อยกระแสข่าวของทางเจ้าหน้าที่มันสวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น อย่างสิ้นเชิง และกรณีที่เมื่อเกิดเหตุแล้ว ผู้ต้องหาสามารถหลบหนีผ่านด่านตรวจนับสิบๆแห่งออกไปจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างลอยนวลทั้งที่ หากมีการแจ้งให้ทุกจุดสกัดแล้วผู้ต้องหาทั้งสองคนจะถูกจับภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง เนื่องจาก ระยะทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไปยัง อ.ปาย มีระยะทาง 110 กม. รถต้องใช้เวลาวิ่งไม่ต่ำกว่า 2.5 ชั่วโมงเนื่องจากเส้นทางเป็นถนนบนภูเขาคดเคี้ยวสูงชัน ยากที่จะทำเวลาให้เร็วกว่านี้ได้ ฉะนั้นในเวลา 2 ชั่วโมงทำไมผู้ต้องหาสามารถผ่านด่านไปได้ทุกด่าน ทั้งด่านตรวจของทหาร ตำรวจ และ อปท.ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ งานนี้ขอชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ที่สามารถตามรวบตัวคนร้ายได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะหนีลอยนวล.


 

หน้าแรก » อาชญากรรม