วันจันทร์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 09:52 น.

การศึกษา

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เสวนาวรรณกรรมอมตะของอินเดีย ธิรุกกุรัล : สร้อยมุกแห่งแรงบันดาลใจ

วันพุธ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 10.26 น.

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ  เสวนาวรรณกรรมอมตะของอินเดีย ธิรุกกุรัล : สร้อยมุกแห่งแรงบันดาลใจ

 

 

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สมาคมทมิฬแห่งประเทศไทย และ สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการเสวนาว่าด้วยหนังสืออมตะของอินเดีย (Seminar on the Indian Classic Book: Thirukkural: Pearls of Inspiration) ธิรุกกุรัล : สร้อยมุกแห่งแรงบันดาลใจ  ฉบับแปลเป็นภาษาไทยเล่มแรก  วิทยากรโดย ดร.สุวิทย์  วิบูลย์เศรษฐ์  (ผู้แปล)  : อดีตเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ *แม่ชีวิมุตติยา (รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง) : ประธานหอพระไตรปิฎกนานาชาติ  คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ     รศ.ดร.โสภนา ศรีจำปา  : ประธานศูนย์ภารตะศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล  และคุณพีระวัฒน์ อัฐนาค (คิงส์)  ผู้ประกาศข่าวช่อง ONE 31 ดำเนินรายการ  ที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จามจุรี สแควร์ ชั้น 4 

 

 

 ธิรุกกุรัล : สร้อยมุกแห่งแรงบันดาลใจ(Thirukkural: Pearls of Inspiration)   แปลอังกฤษโดย ดร.เอ็ม ราชาราม  แปลไทยโดย  ดร.สุวิทย์ วิบูลย์เศรษฐ์  เป็นบทกวีคำสอนเกี่ยวกับศิลปะการดำเนินชีวิตของอินเดีย เขียนขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน เป็นที่ยอมรับทุกยุคทุกสมัย แม้ปัจจุบันก็ยังคงความร่วมสมัยเป็นสากล   ประพันธ์โดยนักปราชญ์ "ธิรุวัลลุวาร์"  ได้รับการตีพิมพ์กว่า 40 ภาษาทั่วโลก  มหาตมะ คานธี   เรียกหนังสือเล่มนี้ว่า “เป็นทรัพย์สมบัติแห่งปัญญา”  ดร.เอพีเจ อับดุล กาลัม  ยกย่องว่า “เป็นพวงมาลัยแห่งความรู้ โดดเด่นเรียบง่ายสง่างามไพเราะ”

 

 

 ดร.สุวิทย์ วิบูลย็เศรษฐ์ กล่าวว่า ธิรุกกุรัล เป็นหนังสือที่แปลมาจากภาษาทมิฬ มาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งตัวต้นฉบับมีอายุ 2,000 ปีก่อน  พบว่า มีการแปลให้เข้าใจง่ายเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ชาวตะวันตกอ่านได้เข้าใจง่ายมากขึ้น คำว่า “ธิรุก” แปลว่า ประเสริฐ  ส่วนคำว่า “กุรัล” แปลว่า กลอน  เมื่อรวมกันกลายเป็นคำว่า “กลอนประเสริฐ” ใครอยากมีชีวิตประเสริฐ หนังสือเล่มนี้ควรต้องมีอยู่ในมือ ซึ่งในเล่มจะเป็นกลอนสั้น 2 บรรทัด ฉบับภาษาอังกฤษได้มีการแปลสลับบรรทัดกับภาษาทมิฬ ผมเลยได้เข้าไปศึกษากับผู้เชี่ยวชาญภาษาทมิฬ เพื่อจะได้แปลจากต้นฉบับภาษาทมิฬ ข้อความที่ได้จะได้ตรงกับภาษาทมิฬร้อยเปอร์เซ็นต์เพื่ออรรถรสในการอ่าน

          แม่ชีวิมุตติยา (รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง)    กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้  มี 133 บท แต่พบว่า 4 บทแรก คือหัวใจหลักของเล่ม และบทอื่นๆเป็นส่วนขยายเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันในรูปแบบต่างๆ บทแรก เกี่ยวกับพระเกียรติคุณของพระเจ้า บทที่สอง ความพิเศษของฝน บทที่สาม ความยิ่งใหญ่ผู้ทรงศีล และบทที่สี่ คือ การยืนหยัดในคุณธรรม สำหรับคนไทยเราที่เป็นชาวพุทธเมื่อเห็นบทแรกเกี่ยวกับพระเจ้าอาจจะคิดว่าไม่เกี่ยวกับเรา แต่ในเล่มทุกศาสนาอ่านได้  เพราะอาจารย์มองว่า การที่กล่าวถึงว่าพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของโลกแปลความหมายได้ว่า สภาวะความดีงาม ความบริสุทธิ์และประเสริฐในทุกสิ่งทุกอย่าง พออ่านเรื่อยๆจะพบว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของการปฏิบัติแบบมีเหตุมีผลว่าทำอะไร ได้ผลอย่างไร และควรจะทำอะไรบ้าง ในหนังสือมีใจความสำคัญที่ว่า การมุ่งไปสู่ความดีงาม และนำไปศึกษาปฏิบัติ ในที่สุดก็จะเข้าสู่การบูชา หมายความว่าใจเราตั้งมั่นอยู่ในความดีงามของชีวิตต่อตัวเองและต่อผู้อื่น แต่ถ้าใจเราไม่มีสิ่งที่ตั้งมั่นเลย เราก็ไหลไปตามกระแส มีบทที่สี่ที่น่าสนใจคือ กล่าวว่าความทุกข์ย่อมไม่เกิด   ก็กล่าวถึงว่าทำไมทุกข์ถึงไม่เกิด และต่อเนื่องไปบทที่ห้าคือพ้นจากความหลงใหล และต่อไปอีกว่า พ้น เพราะสามารถแยกดีชั่วได้ อันนี้สำคัญมากเลยในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้เรายังเจอประโยคหนึ่ง      ในหลายๆ บทเลย คือประโยค ที่บอกว่า ให้เราพึงสังวรณ์ในอินทรีย์ห้า ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย บางคนสงสัยว่าทำไมไม่มีใจด้วย จะเห็นได้ว่าหนังสือเล่มนี้จะพูดในสิ่งที่จับต้องได้ และถ้าเราไม่ปฏิบัติตั้งมั่น      ในความดี ในหนังสือก็จะมีบอกไปต่ออีกว่า ยากยิ่งนักจะขับไล่ความโศกเศร้าให้หมดไป ยากจะว่ายข้ามทะเลแห่งบาปทุกข์ เมื่ออ่านต่อไปจะพบว่าบทสรุปของเล่มคืออีกส่วนที่สำคัญ ที่กล่าวว่า จะมาถึงห้วงทะเลมหรรณพก็จะข้ามไปอีกฝั่งได้ หมายความว่าข้ามไปสู่ความปราศจากทุกข์ รวมทั้งในเล่มไม่ได้สอนเฉพาะปัจเจกบุคคลแต่จะสอนถึง การอยู่ร่วมกันในสังคมอีกด้วย โดยเฉพาะในบทที่สอง ที่กล่าวถึงความพิเศษของฝนจะพูดถึงสิ่งแวดล้อมทั้งหมด

 

หนังสือธิรุกกุรัล Thirukkural เล่มนี้ จึงเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามาก   ในฐานะที่จะเป็นคู่มือของชีวิต ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะมีอายุเมื่อสองพันปีก่อนแล้ว แต่ก็ยังเป็นความรู้ที่ทันสมัย นำมาใช้ในปัจจุบันได้สามารถสอนให้เรามีชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสมบูรณ์และทำให้เรารู้จักความงดงามของชีวิต และเป็นที่น่ายินดีว่าหนังสือเล่มนี้มีที่เมืองไทยแล้ว ที่ให้เราได้อ่านได้เรียนรู้ อ่านแล้วได้คุณค่าต่อตัวเอง คนในครอบครัว และขยายไปสู่สังคม เน้นเรื่องของการเป็นคนดี มีคุณธรรม และนำไปปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม รวมทั้งหนังสือได้อธิบายหน้าที่ของแต่ละชนชั้นในสังคมว่าจะปฏิบัติตนอย่างไรให้ดีและมีความสุข ด้วยเช่นกัน

ผู้สนใจหนังสือเล่มนี้ มีจำหน่ายที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปและที่ www.chulabook.com  และที่ www.chulabook.com

 

(email  ข่าวการศึกษา เยาวชน ศิลปวัฒนธรรม  saowaporn@hotmail.com , bat_mamsao@yahoo.com)

 

หน้าแรก » การศึกษา