วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 23:01 น.

การศึกษา

บัณฑิตกัมพูชา จาก ม.ร.ปลื้มสุดในชีวิตจบเป็น“บัณฑิตรุ่นแรก” ด้วยทุนพระราชทานฯ

วันพุธ ที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 19.47 น.
บัณฑิตกัมพูชา จาก ม.ร.ปลื้มสุดในชีวิตจบเป็น“บัณฑิตรุ่นแรก” ด้วยทุนพระราชทานฯ
 
 
บัณฑิตชาวกัมพูชา ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานทุนการศึกษาในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา จนสำเร็จการศึกษาเป็น“บัณฑิตรุ่นแรก”จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
 
 บัณฑิตชาวกัมพูชาที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2561 นี้ มีจำนวน 5 ราย จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 45 จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมกับบัณฑิตของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระหว่างวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ 2563 ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
 
นายเอิวเลียง กึม บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย จบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หนึ่งในผู้ได้รับทุนการศึกษาในโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ปัจจุบันเป็นพนักงาน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย
 
เอิวเลียง เผยว่า ตนมาจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตอนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในผลลัพธ์ที่ได้รับจากความพยายาม ความอดทน และการสนับสนุนจากคนรอบตัว เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเอกภาษาไทย เพราะผมมีความรักในด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาษาเขมรมาตั้งแต่โบราณ
 
“เมื่อเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง  ทำให้ผมได้รับความรู้และพัฒนาความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าที่สุดที่ทำให้ผมประสบความสําเร็จทั้งการศึกษาและการใช้ชีวิต เพราะความสำเร็จครั้งนี้จะนำพาผมก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว และพร้อมที่ก้าวไปเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งผมจะนำความรู้ที่มีไปเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับคนกัมพูชา
 
เคล็ดลับในการเรียน ต้องเริ่มจากการรู้จักบริหารเวลาในการเรียนของแต่ละวันให้ดี เช่น ทบทวนสิ่งที่เรียนมากี่โมง อ่านหนังสือสำหรับวิชาพรุ่งนี้กี่โมง ใช้ความพยายามและความมุ่งมั่นพาเราไปถึงจุดมุ่งหมาย ให้สมกับที่ได้รับทุนพระราชทานฯ การที่ได้รับทุนพระราชทานฯและต้องมาเรียนที่ประเทศไทยทำให้ผมได้รู้จักวัฒนธรรมอันสวยงามของไทย ประสบการณ์ดีๆจากการชีวิตในเมืองไทย และช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วย”
 
นางสาวเสรยเลียะ ตุ๊ซ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ปัจจุบันทำงานอิสระรับจ้างแปลเอกสาร และเป็นล่ามกองถ่ายทำละครและโฆษณาที่กัมพูชา เผยว่า ดิฉันเรียนสาขาวิชาภาษาไทย เพราะชอบภาษาไทย อยากรู้ อยากอ่านออก เขียนได้ และเข้าใจความหมายของภาษาไทย การได้รับทุนการศึกษาครั้งนี้ ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าที่พัก ค่าอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการศึกษา และยังช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วย
 
“เมื่อเข้ามาเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว ดิฉันได้รับความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมไทย สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว ได้พัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีความกล้าขึ้น รู้จักเพื่อนใหม่ มีอาจารย์ผู้ดูแลที่เอาใจใส่อย่างดี รู้สึกดีใจและอบอุ่นใจที่ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจากที่เรียนจบแล้ว ดิฉันจะนำภาษาไทยที่ได้เรียนมาไปใช้ในการทำงาน ซึ่งภาษาเป็นหัวใจหลักในการทำงานของดิฉัน
 
รู้สึกดีใจและภูมิใจที่เรียนจบได้สำเร็จ เป็นผลมาจากความตั้งใจเข้าเรียน ฟังบรรยายจากอาจารย์ในห้องเรียนแล้วกลับมาศึกษาเพิ่มเติม หากไม่เข้าใจตรงไหนก็จะกลับไปถามอาจารย์ใหม่อีกครั้ง   การได้รับทุนพระราชทานฯ ทำให้ต้องมาใช้ชีวิตต่างประเทศ เป็นความท้าทายที่เกิดขึ้น ทั้งการใช้ภาษาไทย การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้ดิฉันได้เรียนรู้ภาษาไทย และภาษาท้องถิ่นในแต่ละภาคของไทยที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ดิฉันจะนำความรู้เหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้สมกับที่เป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ”
 
นายสุเขง วงศ์ บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว ปัจจุบันเป็นมัคคุเทศก์อิสระ และทำธุรกิจส่วนตัวที่ประเทศกัมพูชา เผยว่า ผมได้รับคัดเลือกให้รับทุนพระราชทานฯทำให้มีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศไทยซึ่งเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก และเลือกเรียนสาขาการท่องเที่ยว คณะบริหารธุรกิจ เพราะจะได้มีโอกาสพบเจอผู้คนที่มาจากหลายแห่ง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ วัฒนธรรม และมุมมองที่แตกต่างด้วย
 
“ทุนพระราชทานฯที่ได้รับครั้งนี้ช่วยเหลือในเรื่องค่าเล่าเรียน หนังสือ และที่พักอาศัย และได้เรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา ผมจึงได้เรียนรู้หลายๆด้าน ทั้งความรู้ที่อาจารย์สอน ทั้งประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่เมืองหลวง และวัฒนธรรมของคนไทยที่เพื่อนๆคนไทยได้แลกเปลี่ยนให้กัน รวมถึง การใช้ชีวิตที่ห่างจากครอบครัว สอนผมให้โตขึ้น ไม่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนไทยซึ่งคล้ายกับคนกัมพูชา ได้ความรู้จากอาจารย์ทุกท่านที่สอนมา และได้เห็นการพัฒนาประเทศไทยเพื่อกลับไปช่วยพัฒนาประเทศกัมพูชา”
 
                สุเขง วงศ์ บอกอีกว่า ผมภาคภูมิใจที่สำเร็จการศึกษา และนำใบปริญญามาให้พ่อแม่ภูมิใจ และเอาความรู้ความสามารถที่ได้เรียนมานำไปประยุกต์ใช้ในอาชีพ ช่วงเวลาที่เรียนอยู่มีหลักคิดในการใช้ชีวิต คือ ความรู้คู่คุณธรรม จะเอาความรู้ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้พัฒนาตัวเองและไม่สร้างปัญหาเดือดร้อนแก่คนอื่น หลังจากเรียนจบแล้วตั้งใจจะนำความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ดูแลเอาใจใส่คนไทยที่มาเที่ยวประเทศกัมพูชาอย่างเต็มที่ให้มีความสุขตลอดเส้นทางจนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ และคนกัมพูชาที่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยว และจะเป็นล่ามที่อำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจคนไทยด้วย
 
นายสีหอ มอน บัณฑิตคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการท่องเที่ยว ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC) ประเทศไทย เผยว่า รู้สึกดีใจ และภูมิใจที่สุดที่ได้รับทุนพระราชทานฯด้านการศึกษา นับเป็นเกียรติแก่ตัวเองและครอบครัว เมื่อได้รับโอกาสแล้วจึงตั้งใจเข้าเรียนเพื่อฟังบรรยายจากอาจารย์ทุกครั้ง หลังจากเรียนแล้วกลับมาอ่านหนังสือเพื่อทบทวนบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งช่วยเหลือเพื่อนๆในกลุ่มเพื่อทบทวนอีกครั้ง ที่สำคัญที่สุดคือ การเตรียมตัวในช่วงการสอบให้ดีและพร้อมที่สุด
 
“รู้สึกดีใจ และภูมิใจในชีวิต หลังจากที่ตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือจนจบได้ภายใน 3 ปี และยังได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตต่างประเทศ และเรียนรู้การปรับตัวในวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทำทุกอย่างให้เต็มที่และดีที่สุด และยอมรับข้อเสียเพื่อการพัฒนาตนเอง นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนมาพัฒนาตัวเองในการทำงานร่วมกับบุคคลอื่น
 
ขอขอบคุณอาจารย์ เพื่อน และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เปิดกว้างให้ชาวกัมพูชาได้เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนไทย และนำความรู้ในการพัฒนาองค์กรที่ทำงานอยู่ตามเป้าหมาย ซึ่งหากมีโอกาสก็จะนำความรู้ความสามารถตรงนี้ไปช่วยพัฒนาประเทศของตนเองต่อไป”
 
นายสุเพียะ เอง บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี ปัจจุบันทำงานอิสระที่ กู๊ดส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นล่ามภาษาไทย-เขมร และเป็น MC Presenter ในประเทศไทย เผยว่า ผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้คัดเลือกเป็นนักศึกษาทุนพระราชทานฯ และเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ม.รามคำแหง เพราะเมื่อปี 2558 มีการจัดสอบทุนพระราชทานฯ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ ให้ทุนสาขาวิชาเคมี ตรงกับวิชาที่ผมชอบและอยากศึกษาหาความรู้
 
“ทุนที่ได้รับช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่อย่างมากในการใช้จ่ายประจำวัน ค่าเทอม ค่าวีซ่า และการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่เข้ามาเรียน นอกจากวิชาความรู้ทางวิชาเคมีแล้ว ยังได้รู้ภาษาไทย การใช้ความรู้คู่คุณธรรม การใช้ชีวิตในต่างประเทศ มีเพื่อนช่วยสอนภาษาไทย และได้เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตอยู่ของคนไทย”
 
สุเพียะ เอง บอกอีกว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่สำเร็จการศึกษา  แม้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่บังคับให้นักศึกษาเข้าเรียน ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าไม่ขยันเรียนผมคงเรียนไม่จบ และต้องเรียนหลักสูตรภาษาไทย จากนั้นผมก็ตั้งใจว่าจะเรียนให้จบตามหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยกำหนด ต้องพยายามอ่าน เขียน ฟัง และเข้าเรียนให้มากที่สุด และหลังจากเลิกเรียนกลับมาดูวีดีโอคำบรรยายย้อนหลังอีกรอบ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่ได้เรียนมากขึ้น
 
“ผมได้รับทุนพระราชทาน และต้องมาเรียนต่างประเทศ เป็นโอกาสที่หาได้ยาก และได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตใหม่ๆ ความรู้ด้านเคมี ความรู้ภาษาไทย การเรียนรู้วัฒนธรรม ความรู้คู่คุณธรรม และความรู้เศรษฐกิจพอเพียง และความรู้อีกจำนวนมากที่อาจารย์ทุกท่านได้สั่งสอนมา หลังจากที่เรียนจบแล้ว ผมตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้ศึกษามาไปประกอบอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ สาขาเคมี ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยพัฒนาประเทศต่อไป”
 
 
Email ข่าวการศึกษา เยาวชน ศิลปวัฒนธรรม  saowaporn@hotmail.com   และ  bat_mamsao@yahoo.com

หน้าแรก » การศึกษา