“สุดาวรรณ” เผยความสำเร็จงาน “ใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 85 ล้านบาท ดึงประชาชนร่วมงานกว่า 8 หมื่นคน สร้างการรับรู้กว่า 38 ล้านครั้ง ชูบทบาทวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-สร้าง Soft Power ไทย 

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568  นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงผลสำเร็จจากการจัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 23 – 27 เมษายน 2568 ว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 83,900 คน และสามารถสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า 38 ล้านครั้ง คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกว่า 85 ล้านบาท นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของ “ทุนทางวัฒนธรรม” ในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การจัดงานครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลัก 3 แห่ง ได้แก่ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร โดยแต่ละพื้นที่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง ทั้งจากประชาชน เยาวชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกิจกรรมสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การจัดพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night Museum) และการบริการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับคำชมเชยในด้านคุณภาพการจัดงาน

“ผลสำเร็จของงานครั้งนี้ สะท้อนถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ที่ผนึกกำลังกันขับเคลื่อน Soft Power ไทย ผ่านมิติทางวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระทรวงวัฒนธรรมมุ่งมั่นจะเดินหน้านโยบายวัฒนธรรมเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้วัฒนธรรมเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และเสริมสร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้กับทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z และ Gen Alpha” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นตัวอย่างรูปธรรมของการขับเคลื่อน “นโยบายเศรษฐกิจวัฒนธรรม” ที่กระทรวงวัฒนธรรมให้ความสำคัญ โดยใช้กิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นกลไกในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการจ้างงาน การกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการในชุมชน ศิลปินพื้นบ้าน และผู้ผลิตสินค้าทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหลากหลายให้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีวัฒนธรรมเป็นฐาน นับเป็นการพัฒนาวัฒนธรรมในมิติเชิงสร้างสรรค์ควบคู่กับความยั่งยืน

ทั้งนี้ งานดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสำคัญของกระทรวงวัฒนธรรมในการเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ และร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 243 ปีแห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของชาติแล้ว ยังเป็นการแสดงศักยภาพของวัฒนธรรมไทยให้ประชาชนได้ร่วมภาคภูมิใจอย่างกว้างขวาง