วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 08:13 น.

การศึกษา

 ข้อคิด 3 ต. คือ ปรับตัว-ตั้งตัว-คงตัว ของพระพรหมบัณฑิตถึงชาว มจร

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 14.45 น.

ข้อคิดเชิงธรรมปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ "ปรับตัว – ตั้งตัว – คงตัว พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคมและอุปนายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้แสดงไว้ในการปาฐกถาพิเศษในงาน “วันบูรพาจารย์” เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ข้อคิดดังกล่าวสามารถถอดความหมายในเชิงพุทธศาสตร์และพัฒนาการบริหารจัดการองค์กรเชิงพุทธ ซึ่งสอดรับกับหลักไตรสิกขาและแนวคิดการฟื้นฟูศรัทธาในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ บทความได้วิเคราะห์แนวคิดทั้ง 3 ประการในเชิงพฤติกรรมองค์กร การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และจริยธรรมเชิงสถาบัน

1. บริบทของการแสดงข้อคิด 3 ต.
ในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) เผชิญกับสถานการณ์ท้าทายจากภายในและภายนอก ทั้งจากปัญหาภาพลักษณ์ การบริหารจัดการ และแรงศรัทธาจากสาธารณชน การที่พระพรหมบัณฑิตได้เสนอข้อคิด 3 ต. แสดงถึงความพยายามฟื้นฟูศรัทธาและสร้างแนวทางดำเนินชีวิตองค์กรตามหลักพุทธธรรม โดยอาศัยภูมิปัญญาจากประสบการณ์ ความเข้าใจในธรรม และหลักวิชาการสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

2. วิเคราะห์ข้อคิด “ปรับตัว”
การ "ปรับตัว" ในบริบทของพระพรหมบัณฑิต หมายถึง การตระหนักรู้ต่อการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน และการมีปฏิกิริยาตอบสนองในเชิงบวก ไม่ยึดติดอยู่กับระบบเดิมที่อาจไม่เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน ท่านได้อ้างถึงทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วินว่า “ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงหรือฉลาดที่สุด แต่คือผู้ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด”

ในเชิงพุทธศาสตร์ การปรับตัวสอดคล้องกับหลัก อนิจจตา (ความไม่เที่ยง) และหลัก ปฏิจจสมุปบาท (อิทัปปัจจยตา) ที่เน้นการตอบสนองต่อเหตุปัจจัยโดยไม่ยึดติด ชาว มจร จึงจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์จริง เปิดใจรับฟัง และพร้อมปรับเปลี่ยนทั้งในระดับโครงสร้าง หลักสูตร เทคโนโลยี และวิธีการสื่อสาร เพื่อให้สถาบันยังคงมีชีวิตอยู่ในความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

3. วิเคราะห์ข้อคิด “ตั้งตัว”
การ “ตั้งตัว” ตามถ้อยคำของพระพรหมบัณฑิต คือ การตั้งสติ ประคับประคอง ไม่ให้ล้มในยามวิกฤต ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ สติ และ สมาธิ ในการรับมือกับความผันผวน

แนวคิดนี้สอดรับกับหลักธรรมใน ไตรสิกขา โดยเฉพาะ สมาธิ (การตั้งมั่นของจิต) และ อธิษฐานธรรม ในฐานะหลักธรรมของผู้นำ เช่น ความแน่วแน่ในการทำหน้าที่โดยไม่หวั่นไหว ท่ามกลางแรงกดดัน

ในเชิงการจัดการองค์กร การตั้งตัวคือการประคองระบบให้ดำเนินต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ ด้วยการเสริมสร้างขวัญกำลังใจ ยึดโยงความร่วมมือของศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เป็นการสร้าง Social Capital หรือทุนทางสังคมในเชิงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ

4. วิเคราะห์ข้อคิด “คงตัว”
“คงตัว” หมายถึง ความมั่นคง ยั่งยืน และสม่ำเสมอในอุดมการณ์ ซึ่งถือเป็นขั้นสูงสุดของการฟื้นคืนศรัทธา พระพรหมบัณฑิตเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาสิ่งดีงามที่มีอยู่ โดยไม่ปล่อยให้เสื่อมสูญลงไป

ในเชิงพุทธธรรม แนวคิดนี้สอดคล้องกับหลัก ขันติ (ความอดทน) และ ธัมมัญญุตา (ความรู้จักธรรมะ) ที่เน้นความยั่งยืนผ่านการดำเนินชีวิตอย่างมีหลักการ ซึ่งในระดับองค์กร หมายถึง การพัฒนาระบบที่เป็นมาตรฐาน มีหลักธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้ และรักษาคุณค่าเชิงอัตลักษณ์ของ มจร ไว้อย่างมั่นคง

“คงตัว” จึงไม่ใช่การหยุดนิ่ง แต่คือการสถาปนาความมั่นคงที่มีชีวิต และมีการถ่ายทอดอุดมการณ์ข้ามรุ่นให้กับชาว มจร รุ่นต่อไป

5. สรุปและข้อเสนอแนะ
ข้อคิด 3 ต. ของพระพรหมบัณฑิตคือโมเดลเชิงพุทธในการบริหารจัดการวิกฤต ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม โดยมีแก่นแกนอยู่ที่การตระหนักรู้ รับมืออย่างมีสติ และยึดมั่นในคุณค่าร่วม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

สำหรับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย บทเรียนจากข้อคิดดังกล่าวควรถูกนำไปวางเป็นยุทธศาสตร์องค์กร โดยบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้การปรับตัวตั้งตัวและคงตัวนั้น เป็นไปอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับพันธกิจเชิงพุทธระดับชาติและนานาชาติในอนาคต
 

หน้าแรก » การศึกษา