เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพฯ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ เข้ากราบนมัสการ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อหารือมติและข้อสั่งการของคณะกรรมการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา จากการประชุม มส. เมื่อวันที่ 13 ส.ค.

การหารือมีสาระสำคัญเกี่ยวกับปฏิบัติการ “กวาดลานวัด” ของตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งเข้าตรวจสอบพระภิกษุ-สามเณร บัญชีเงินวัด บัญชีส่วนตัว รวมถึงตู้บริจาค สร้างความหวั่นไหวแก่พระสงฆ์ทั่วประเทศ โดยสมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมความเข้าใจและปฏิบัติอย่างเหมาะสม ขณะที่ตำรวจได้ออกแนวปฏิบัติใหม่ให้เคารพเพศบรรพชิต ห้ามบุกเข้าวัดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และห้ามถ่ายรูปพระในลักษณะทำให้เสื่อมเสีย

มส.มีมติให้น้อมรับพระบัญชา และกำหนดว่าการตรวจสอบต้องมีเจ้าคณะผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมด้วย ห้ามตรวจสอบบัญชีส่วนตัว เว้นแต่มีหมายศาล พร้อมติงการปฏิบัติของตำรวจในบางพื้นที่ที่บุกวัดกลางคืนพร้อมอาวุธครบมือ สร้างความร้าวฉานในความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับตำรวจ

ต่อมาในวันเดียวกัน ดร.นิยม เดินทางไปวัดเครือวัลย์วรวิหาร เพื่อให้กำลังใจ สมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี หลังเกิดเหตุปลอมลายมือเบิกเงินวัดรวม 65 ล้านบาท ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตพนักงานธนาคารซึ่งอาสาช่วยงานวัด และใช้เงินบางส่วนที่ยักยอกมาสู้คดี

ทั้งนี้ ที่ประชุม มส. ได้เห็นชอบนโยบายหลักเพื่อคุ้มครองคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา อาทิ  รัฐและเจ้าหน้าที่ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของเพศบรรพชิต การลงพื้นที่ตรวจสอบต้องประสานเจ้าคณะและสำนักงานพระพุทธศาสนาล่วงหน้า  จัดทำคู่มือปฏิบัติร่วมระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนา หน่วยงานด้านความมั่นคง และตำรวจ  คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของวัดและพระสงฆ์ตามกฎหมาย  ให้เจ้าคณะดำเนินการด้านพระวินัย เว้นแต่คดีอาญาร้ายแรงที่มีหลักฐานชัดเจน ตั้งคณะทำงานติดตามและปรับปรุงแนวทางอย่างต่อเนื่อง

นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายลดความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจ และรักษาศักดิ์ศรีของคณะสงฆ์ให้มั่นคงในระยะยาว