นำแพลตฟอร์มพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ไปใช้ประโยชน์ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่น แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน 

ตามที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) นำโดย ผศ.ดร.พระครูปลัดสุวัฒนวิสุทธิสารคุณ, ผศ.ดร. โยตะ ชัยวรมันกุล และคณะ ดำเนินการวิจัย เรื่อง “แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่นภายใต้การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน” โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยญาณสังวรมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และ สกว. ปีงบประมาณ 2568 โดยมีวัตตถุประสงค์ ศึกษาข้อมูลของพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาแพลตฟอร์มพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 การนำพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ไปใช้ประโยชน์ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเพื่อถ่ายทอดการสร้างพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่นภายใต้การแก้ปัญหาความยากจน โดยรูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) เชิงทดลอง กับ กลุ่มตัวอย่างอาสาสมัคร 30 คน สำหรับอธิบายข้อมูลในกิจกรรมก่อนและหลังจากการจัดกิจกรรม การวิจัยเชิงคุณภาพ 

โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตกิจกรรม กับผู้มีส่วนเกี่ยวกับข้อง 18 คน และการประชุมกลุ่มย่อย กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 15 คน ร่วมกับใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่ออธิบายขั้นตอนการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาแพลตฟอร์มพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่น ภายใต้การแก้ปัญหาความยากจน

ผลจากการศึกษาข้อมูลของพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่น ภายใต้การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน พบว่าปัญหาความยากจนในชุมชนเกาะลัดอีแท่นมีทั้งการขาดรายได้ประจำ การกู้หนี้ยืมสิน ดังนั้นการพัฒนาเกาะลัดอีแท่นควรมุ่งสร้างวัดให้เป็นศูนย์กลางทั้งด้านจิตใจและเศรษฐกิจ การพัฒนาเกาะลัดอีแท่นควรผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับแนวคิด BCG Line รวมถึงจัดกลุ่มไลน์กลางสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้ข้อมูลตารางกิจกรรม แผนที่จุดสงบ และปฏิทินธรรมะ สำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์มพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่น ภายใต้การแก้ปัญหาความยากจน โดยได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ประกอบด้วย แรลลี่ธรรมะรอบเกาะลัดอีแท่น ทำขนมพร้อมสอดแทรกธรรมะ เน้นการสร้างรายได้และรักษาอัตลักษณ์ท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงปัญญาที่เชื่อมโยงกับวิถีชุมชน อาหารพื้นเมือง และหัตถกรรมท้องถิ่น ยกระดับคนในชุมชน เป็น “ผู้นำพาธรรมเดินทางแรลลี่รอบเกาะ” ก่อให้เกิดรายได้ที่ยั่งยืน สร้างรายได้ใหม่จากการแปรรูปสมุนไพร อาหารสุขภาพ และเมนูสายธรรมะ จัดพื้นที่ให้โปร่ง โล่ง เงียบ มีมุมนั่งสมาธิ และกิจกรรมเดินจิตสงบเชิงนิเวศ และเกิดการสร้างคุณค่าทั้งด้านจิตใจและเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ผ่านกิจกรรม ซึ่งพบว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากแพลตฟอร์มพุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 จำนวน 30 คน จากผลก่อนและหลังในภาพรวมจากการทดสอบมีความแตกต่างกัน ชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมดังกล่าวนี้สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ได้รับจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทั้งก่อนและหลังมีความสอดคล้องกับการแก้ปัญหาความยากจน

พร้อมกันนี้ทางทีมผู้วิจัย ยังได้เผยแพร่ผลการวิจัยผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งจัดทำเป็นคลิปสั้น 7 ตอน เรื่อง “พุทธนวัตกรรมสัปปายะ 7 ให้แหล่งท่องเที่ยวเกาะลัดอีแท่นภายใต้การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน” นำเสนอพุทธนวัตกรรมที่ใช้การถ่ายทอดหลักสัปปายะ คือ ความสุขสบายจากภายในถ่ายโอนสู่ภายนอกผ่านเรื่องราวและวิถีธรรมชาติด้วยการเที่ยวเชิงออแกนิค “ท่องเที่ยวรักษ์โลก” สอดคล้องและตรงกับกับนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ของ ททท. ภายใต้ BCG Economy Model ด้วย