วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568 08:06 น.

การศึกษา

ม.รังสิต คว้ารางวัลนานาชาติจากการประกวดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.36 น.

ม.รังสิต คว้ารางวัลนานาชาติจากการประกวดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์

 

อาจารย์และทีมวิจัย BME ม.รังสิต คว้ารางวัลนานาชาติจากการประกวดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ในงาน “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025”     อาจารย์และทีมวิจัย วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต คว้ารางวัลระดับนานาชาติจากการประกวดผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์เข้าร่วมจัดแสดงในงาน “The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025” ที่เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน รวม 2 รางวัล
    

รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล ถนัดช่างแสง รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม วิทยาลัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า เวทีประกวดผลงานวิจัยระดับนานาชาติแบบนี้มีจัดขึ้นในหลายประเทศทุกปี สำหรับงาน The 8th China (Shanghai) International Invention & Innovation Expo 2025 ที่จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นหนึ่งในเวทีที่จัดขึ้นในปีนี้ ซึ่งทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นผู้เปิดรับและคัดเลือกผลงานจากนักวิจัยไทยที่เคยผ่านการประกวดหรือได้รับรางวัลในประเทศมาแล้ว เพื่อส่งเข้าร่วมในเวทีดังกล่าว โดยผมและทีม ได้แก่ ผศ.ดร.ศนิ บุญญกุล รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์ อาจารย์อนุชาญ พนักศรี และทีมวิจัย ได้ส่งผลงานเข้าคัดเลือกกับทาง วช. และได้รับโอกาสเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับเลือกไปจัดแสดงและประกวดที่ประเทศจีน และได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Medal) จากคณะกรรมการประเทศจีน, รางวัล NRCT Special Award และรางวัลชมเชยพิเศษ (NRCT Honorable Mention Award) จากทาง วช. อีกด้วย 
    

“สำหรับผลงานที่ส่งเข้าประกวดมีชื่อว่า “Nanofiber Membrane for Urinary Albumin Detection in Kidney Disease Screening Using Molecular Imprinting Technique” ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายคือ การพัฒนาชุดตรวจโรคไตเบื้องต้นจากปัสสาวะ โดยใช้แผ่นกรองที่สามารถจับโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะ และเปลี่ยนสีเมื่อมีโปรตีนชนิดนี้อยู่ อัลบูมินในปัสสาวะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของความผิดปกติของไต ซึ่งในคนปกติจะพบได้น้อยมาก การตรวจพบได้เร็วจึงช่วยลดโอกาสเข้าสู่ภาวะไตเรื้อรัง แต่ปัจจุบันการตรวจมักต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในโรงพยาบาล ซึ่งไม่เพียงพอต่อการคัดกรองในวงกว้างผลงานนี้จึงเน้นพัฒนาให้ใช้งานที่บ้านได้ (home use) โดยไม่พึ่งแอนติบอดีซึ่งมีต้นทุนสูง และเลือกใช้วิธีกรองปัสสาวะแทนการจุ่มแผ่นกระดาษ ทำให้สามารถกรองได้มากเท่าที่ต้องการ เพิ่มโอกาสตรวจพบอัลบูมินได้แม่นยำกว่าชุดตรวจทั่วไป จุดเด่นของเราคือ ต้นทุนต่ำกว่า ใช้ง่ายกว่า และความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า
     

อีกหนึ่งผลงานมีชื่อว่า “Artificial Skin by Bioprinting from Fish Gelatin” เป็นการพัฒนาผิวหนังเทียมโดยใช้เจลาตินที่สกัดจากหนังปลา ซึ่งผ่านการดัดแปลงทางเคมีเพื่อใช้เป็นโครงสร้างสำหรับปลูกเลี้ยงเซลล์มนุษย์ โดยอาศัยแนวคิดทางวิศวกรรมเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนผิวหนังที่บาดเจ็บรุนแรง เช่น แผลไฟไหม้ โครงสร้างผิวหนังนี้ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ : วัสดุเจลาตินจากหนังปลา เซลล์มนุษย์ที่เพาะลงในโครงสร้าง และระบบกระตุ้นเพื่อเร่งการฟื้นฟู เราทดสอบในสัตว์ทดลองและพบว่าแผลที่ใช้ผิวหนังเทียมฟื้นตัวได้เร็วกว่าแผลปกติ ภายใน 2 สัปดาห์ จุดเด่นของงานนี้คือ การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีอยู่มากในประเทศ มาพัฒนาเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูง ลดการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้า และสามารถต่อยอดในงานซ่อมแซมเนื้อเยื่อในอนาคตได้” รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล กล่าว
    

เมื่อพูดถึงการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ อาจารย์กล่าวว่า สำหรับผลงานแรก ปัจจุบันอัตราการตรวจพบโรคไตของประชากรในประเทศไทยอยู่ที่ 1 คนต่อประชากร 4 คนซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในโลก และส่วนใหญ่จะตรวจพบโรคไตในระยะเรื้อรังและมีการใช้งบประมาณไปกับการรักษาผู้ป่วยเหล่านี้ ราว ๆ 10,000 ล้านบาทต่อปี เพราะฉะนั้นการตรวจคัดกรองโรคไตเชิงรุกจึงมีความสำคัญในสภาวะการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลนั้นไม่เพียงพอ การพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ วิธีการใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้คนได้เข้าถึงชุดตรวจที่สามารถตรวจได้เองจึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยสนับสนุนและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นได้
     

ในขณะที่ผลงานที่ 2 การพัฒนาผิวหนังเทียมมีประโยชน์อย่างมากในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและอาจจะไม่มีโอกาสที่จะฟื้นฟูผิวหนังบริเวณนั้นกลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งปัญหาที่ตามมาไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่อาจทำให้ผู้ป่วย มีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่าย บาดเจ็บซ้ำซ้อนจากการที่จะต้องผ่าตัดผิวหนังบริเวณอื่นมาทดแทน ซึ่งการติดเชื้อนั้นมีอันตรายถึงชีวิต ผลงานวิจัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยให้ผู้ป่วยลักษณะนี้ไม่ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้
   

 “ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลในเวทีนานาชาติแบบนี้ และได้นำเสนอแนวคิดในการพัฒนางานวิจัยของคนไทยในสายตาของชาวโลก และได้แลกเปลี่ยนมุมมองในการพัฒนาผลงาน และมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าผลงานวิจัยของคนไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นที่ยอมรับในเวทีสากลได้
     

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผ่นเมมเบรนที่พัฒนาเป็นชุดตรวจโรคไตแน่นอนว่า ผลงานวิจัยนี้เรามีความตั้งใจที่จะพัฒนามันออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่จะพัฒนาให้ต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่เราพัฒนาสามารถกลายเป็นผลิตภัณฑ์จริง ๆ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำมาตรฐานต่าง ๆ ในส่วนของผิวหนังเทียม ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เฉพาะบุคคลได้ ซึ่งแนวโน้มทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น ตอนนี้งานวิจัยดังกล่าวได้ผ่านการทดลองในสัตว์ทดลองมาแล้ว ในขั้นตอนต่อไปคือการทดลองทางคลินิกในผู้ป่วยจริง และพัฒนามาใช้งานจริงต่อไป

 

หน้าแรก » การศึกษา