สนช.ปัดถลุงงบลงพื้นที่77จังหวัดช่วยรบ.พีอาร์"ไทยนิยมฯ"
 

วันที่ 1 มิ.ย.2561 ที่รัฐสภา นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ สนช.พบประชาชนตามวิถีไทยยั่งยืนว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในห้องประชุมโครงการ สนช.พบประชาชน ที่เชิญชาวกรุงเทพ 50 เขต มาร่วมเสนอปัญหาในพื้นที่ ยืนยันว่า สนช.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีโดยหลังจากนี้จะคอยติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาภายหลังจากที่ สนช.ได้ใช้เวลามากว่า 3 ปี ในการลงพื้นที่ 77 จังหวัดเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้เช่นกันโดยจะมีการติดตามผ่าน 15 กลุ่มโซน ซึ่งจะสรุปผลทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย.นี้ส่วน สนช.จะดำเนินการติดตามปัญหาอะไรต่อไปอีกหรือไม่นั้น ก็จะมีการประเมินกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์ถึงการใช้งบประมาณของ สนช.ในการลงพื้นที่พบประชาชนทั่วประเทศว่าใช้เงินไม่เหมาะสมนั้น นายพีระศักดิ์กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการใช้งบประมาณของ สนช.คำนึงถึงความประหยัด และไม่เป็นภาระแก่จังหวัดที่เราไปซึ่งปี 60 ที่ผ่านมานั้น ก็มีเงินเหลือถึง 3 ล้านบาท จึงอยากให้ทุกคนสบายใจในการทำหน้าที่ของ สนช.อีกทั้งการใช้เงินงบประมาณของ สนช.ก็มีหน่วยงาน อาทิสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบ เป็นต้น

ทั้งนี้นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาลว่า เท่าที่ตนได้สัมผัสการดำเนินโครงการที่จะจบในเดือนนี้ คิดว่าชาวบ้านเขาถูกล้างสมอง เป็นโครงการล้างสมองธรรมดาไม่ได้มีอะไรใหม่เลย ก็จะให้เงินชาวบ้านแต่ก็ไม่เข้าที่เข้าทางหรอก มีการเรียกประชุม 3-4 ครั้ง ต่อหมู่บ้าน มีการถามว่ารัฐบาลมีงบประมาณ แล้วอยากได้อะไร ถามคำถามเก่าๆ การประชุมส่วนหนึ่งคณะกรรมการก็มาจากฝ่ายราชการ ปลัดอำเภอ อบต. มหาดไทยฝ่ายปกครอง ทหาร ก็มีคนมาประชุมกัน 20-30 คน มีการเลี้ยงข้าว ส่วนข้าราชการก็ได้เบี้ยเลี้ยง สรุปแล้วประชุมหมู่บ้านหนึ่งประมาณ 4 ครั้ง
          

“ผมคิดว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่ได้ประโยชน์ ไม่ได้แก้เรื่องเศรษฐกิจชาวบ้าน เป็นทำให้ชาวบ้านเห็นว่ารัฐบาลได้ลงไปดูแลแล้ว แต่มันดูแลไม่ทั่วถึง ใช้เงินเป็นหมื่นล้าน ดูแล้วจะเสียเปล่าไม่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง แน่นอนว่าเมื่อราชการไปถามว่าโครงการดีไหม ชาวบ้านที่ไหนจะกล้าตอบว่าไม่ดี ก็ไม่เป็นไร โครงการทำเพื่อประชาชนคิดว่าดีก็ทำไป แต่ผมคิดว่าได้ไม่เท่าเสีย” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ทางที่ดีตนคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ควรที่จะลงสู่การเมืองเข้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าที่ได้ทำมานั้นดีจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นรีบกระโดดมาสู่สนามเลือกตั้ง มาวัดกันในสนามเลือกตั้ง ถ้าบอกว่าตัวเองดี ตัวเองเก่ง ชาวบ้านเลือกแน่ ก็ลงมาเลย เพราะนี่ก็เป็นการหาเสียงล่วงหน้าไปแล้ว โดยใช้เงินรัฐ ก็อยากให้มาพิสูจน์กันในสนามเลือกตั้ง