เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2566   นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายด้านเศรษฐกิจภายใต้แนวทาง สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติ ที่มีความชัดเจน เป็นไปได้และไม่เป็นภาระงบประมาณของประเทศผนวกกับทีมเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งมาก พรรคจึงมีแนวทางในการนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจของพรรคไปยังสาธารณชนเพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจที่ครบถ้วนผ่านการจัดกิจกรรมใน 2 รูปแบบหลัก คือ 

รูปแบบที่ 1 นำเสนอนโยบายเศรษฐกิจของพรรคที่เชื่อมโยงกับวาระประเทศไทย โดยจะจัดกิจกรรมแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ทุกสัปดาห์ รูปแบบที่ 2 คือกิจกรรมทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์สัญจรไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อนำเอานโยบายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาแต่ละพื้นที่ไปนำเสนอให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงความโดดเด่นของนโยบายที่จะช่วยสร้างเงินให้กับคนไทย และสร้างรายได้ให้กับประเทศ

ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีทีมเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งประกอบด้วยผู้มีชื่อเสียงและมีผลงานในอดีตหลายท่านถือว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากที่สุด และมีความโดดเด่นกว่าพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่ประกอบด้วย 

• ดร.พิสิฐ  ลี้อาธรรม อดีต รมช.กระทรวงการคลัง อดีตคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้บริหารระดับสูง ธนาคารแห่งประเทศไทย นักเศรษฐศาสตร์ ของ IMF ประจำกรุงวอชิงตันดี ซี สหรัฐฯ 
• ม.ร.ว. ศศิพฤนท์  จันทรทัต ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง อดีต CEO บ.หลักทรัพย์  กรุงศรีอยุธยา จำกัด มหาชน กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย CEO  บ. TT&T จำกัด มหาชน 
• นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ อดีตรองประธานหอการค้าโลก (ICC) อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย อดีตประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย 
• ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ (Megaproject) อดีตที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐาน ธนาคารโลก (WB) องค์การสหประชาชาติ (UN) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA)
• นายอลงกรณ์  พลบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน "มิสเตอร์เอทานอล" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์  อดีต รมต.เศรษฐกิจอาเซียน ประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) คนแรกของประเทศ
• ดร.สรรเสริญ  สมะลาภา ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจธนาคารโลก (WORLD BANK) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ 
• นางสาววทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนยุคใหม่ และซอฟต์พาวเวอร์ 
• ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเศรษฐกิจ ประจำสหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลล์  จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเคมี มหาวิทยาลัย Imperial College London ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจทันสมัย  พรรคประชาธิปัตย์

นางดรุณวรรณ ยังกล่าวต่อด้วยว่าด้วยประสบการณ์ความรู้ความสามารถของทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำทัพของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะสามารถนำพาประเทศไทยให้ไปสู่ทางรอดและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน และในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามีผลงานโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรได้รับประโยชน์เป็นจำนวนมากและช่วยแก้ไขปัญหาในยามที่พืชผลเกษตรมีราคาตกต่ำ รวมไปถึงการผลักดันตัวเลขส่งออกให้กับประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้ในยามที่มีวิกฤตโควิดก็ตาม รวมถึงการเจรจาการค้าระหว่างประเทศในรูปแบบ Mini FTA และ FTA อีกเป็นจำนวนมาก 

ทั้งนี้พรรคจะคิกออฟแถลงข่าวในประเด็น “ประชาธิปัตย์ อัดฉีดเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ใครได้อะไร” ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายนนี้ เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป โดยทีมเศรษฐกิจของพรรค ที่ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช เพื่อนำเสนอแนวทางในการใช้เงินอัดฉีด 1 ล้านล้านเข้าไปกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้กับประเทศและสร้างรายได้ให้กับคนไทย

"จุรินทร์" ออนทัวร์ภาคกลาง กาญจนบุรี-สมุทรสาคร มั่นใจได้ที่นั่งเพิ่ม

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในวันที่ 10 เมษายน 2566 นี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำ       “จุรินทร์ออนทัวร์” ลงพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี-สมุทรสาคร เพื่อร่วมพบปะกับพี่น้องประชาชน

โดยนายจุรินทร์จะนำทัพผู้สมัครทั้ง 2 จังหวัด ไปร่วมพบปะพี่น้องประชาชน ที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และเดินทางต่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อร่วมพบปะพี่น้องประชาชนที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อด้วยว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์มีตัวผู้สมัครที่มีความพร้อมทั้งสองจังหวัด ทั้งผู้สมัครเดิมที่มีผลงานทำงานต่อเนื่องไม่เคยทิ้งพื้นที่ หรือบางท่านแม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพที่จะเป็นตัวแทนในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนภายใต้แนวทาง สร้างคน-สร้างเงิน-สร้างชาติ ของพรรค จึงมั่นใจว่าพรรคจะมีที่นั่งเพิ่มในพื้นที่ทั้งสองจังหวัดนี้อย่างแน่นอน