เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566   ทยอยเปิดตัวคนรุ่นใหม่ทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่องกับพรรคเพื่อชาติ ชนิดที่ว่าแต่ละคนโปรไฟล์ต้องร้อง “ว้าว” ในด้านการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นอีกเสาหลักของพรรคเพื่อชาติก็ไม่ธรรมดา เราไปทำความรู้จักกับ “ผู้การยอด” กัน 

“ผู้การยอด” หรือ พล.ต.ต. ดร. ชยุต มารยาทตร์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จบการศึกษาจาก รร.เตรียมทหารรุ่นที่ 21 โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 37 ปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร จาก NIDA และปริญญาเอกสาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม นอกจากนี้ยังจบหลักสูตรต่างๆอีกมากมาย และเป็นอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานีอีกด้วย 

ประวัติการทำงานในอดีตนับว่าเป็นตำรวจน้ำดีที่ผ่านงานทั้งบู๊และบุ๋นมาอย่างโชกโชน หากยังจำคดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร ที่เป็นคดีดังเมื่อหลายสิบปีที่แล้วได้ ผู้การยอดคนนี้แหละที่เป็นผู้คลี่คลายคดีดังได้สำเร็จ และล่าสุดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็เป็นผู้ทำคดี “ฆ่าเสือดำ” ที่เป็นข่าวอึกทึกครึกโครมในเมืองไทย และเป็นผู้ที่หาหลักฐานมาเอาผิด “คนใหญ่คนโตในสังคม” จนต้องรับโทษไปตามกฎหมาย ทวงคืนความยุติธรรมสู่สังคมและกระบวนการยุติธรรมได้สำเร็จ

วันนี้หลังจากเกษียณอายุแล้ว “ผู้การยอด” ขอทำตามใจตัวเอง เดินทางเข้าสู่สายประชาธิปไตย โดยขอไม่สังฆกรรมกับพรรคใหญ่หลายพรรคที่มาชักชวนด้วยเหตุผลง่ายๆว่า “ผมทำตามหน้าที่ที่ต้องทำในฐานะตำรวจจบแล้ว วันนี้ขอทำตามใจตัวเอง ขออยู่กับฝั่งประชาธิปไตย” และเริ่มต้นทำงานกับพรรคเพื่อชาติเมื่อกลางปีที่แล้วในตำแหน่งโฆษกพรรคเพื่อชาติ ก่อนขยับขึ้นเป็น รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติในวันนี้ รับผิดชอบนโยบายการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการปฏิรูปองค์กรตำรวจให้เป็นที่พึ่งที่แท้จริงของประชาชน 

โดย พล.ต.ต. ดร. ชยุต มารยาทตร์ ได้เปิดเผยว่า “ตำรวจเป็นเสมือนต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมายังมีหลายสิ่งในวงการตำรวจที่เป็นปัญหา ส่งผลกระทบต่อการเป็นที่พึ่งของประชาชน ทำให้ตำรวจไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พรรคเพื่อชาติจะของแก้ไขที่โครงสร้างและกระบวนการสำคัญๆในการทำงานที่เป็นส่วนที่สัมผัสกับประชาชนโดยตรง ซึ่งผมทราบปัญหาดีจากประสบการณ์ทั้งชีวิตที่เป็นตำรวจ นอกจากนี้ พร้อมๆกัน เราต้องปฏิรูปภายในองค์กรของตำรวจด้วย ทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยลืมตาอ้าปากได้ มีสวัสดิการที่ดี มีความก้าวหน้าในชีวิตอย่างเท่าเทียมกันภายในองค์กร โดยหัวใจของการปฏิรูปทั้งหมดต้องอยู่บนเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น และได้รับความเป็นธรรมเป็นสำคัญ” 

งานนี้อดีตตำรวจมือปราบตั้งใจมาลุยการเมืองกับคนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อชาติ เรียกว่าหอบเอาประสบการณ์และความเก๋า ตลอดจนแนวทางการแก้ปัญหามาร่วมมือกับคนรุ่นใหม่เพื่อออกแบบนโยบายที่ทันสมัย ลบคำสบประมาทว่าเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ไร้ประสบการณ์ไปได้มากโข ซึ่งล่าสุดนอกจากจะเป็นรองหัวหน้าพรรคแล้วยังเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อชาติอีกด้วย