วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:27 น.

การเมือง

“นภินทร” ย้ำมาตรการ “พาณิชย์” ดูแลราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ  พร้อมกระจาย “พืชสวน” ผ่านปั๊มทั่วประเทศแก้ปัญหาผักผลไม้ล้นตลาด

วันพฤหัสบดี ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 19.30 น.

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566  นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.พรรคภูมิใจไทย จ.ชัยภูมิ เรื่องมาตรการดูแลราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ และการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรเพื่อปากท้องประชาชน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 27 โดยระบุว่า ได้ทราบถึงปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ และได้มีการหารือกับคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหา โดยกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรเก็บสต็อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ส่วนเกิน โดยรัฐจะสนับสนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3.85 บาท และช่วยเหลือโดยให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กับผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  รวมถึงมาตรการทางกฎหมายอย่างการจำกัดการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากต่างประเทศในช่วงเดือนกันยายนถึงมกราคม โดยให้องค์การคลังสินค้าสามารถนำเข้าได้เพียงบริษัทเดียว และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม ภาคเอกชนสามารถนำเข้าได้แต่ต้องเสียภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมสูง 

นายนภินทร กล่าวอีกว่า กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยพยุงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในระดับประมาณ 8.50-9.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมทั้งสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ 
 
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวอาจยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดโลกยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนการผลิตของเกษตรกรยังคงสูงขึ้น ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์อาจต้องพิจารณามาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง หรือการกำหนดราคารับซื้อ และอาจต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ในการหาแนวทางเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศ 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงแนวทางในการดูแลสินค้าเกษตรประเภทพืชสวนที่มีการเน่าเสียไวว่า กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการในการดูแลพี่น้องเกษตรกร ในขณะที่สินค้าออกมามากและราคาตกต่ำ โดยการนำผลผลิตพืชสวนที่เน่าเสียไวเช่น ผักผลไม้ ออกนอกกลไกตลาดปกติไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง เช่น การกระจายผ่านปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 2 หมื่นแห่ง จะมีการประสานงานกับผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันประมาณ 3-5 พันแห่ง เพื่อเข้าร่วมโครงการ รวมถึงการกระจายผลผลิตผ่านกลไกห้างชุมชนกว่า 600 แห่ง และรถโมบายอีก 100 จุดต่อวัน ซึ่งเหล่านี้เป็นมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เคยทำและจะทำต่อไป

หน้าแรก » การเมือง