วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 09:53 น.

การเมือง

แนวทางการสังคายนากฎหมายสงฆ์เพื่อป้องกันพระพุทธศาสนาเสื่อม 

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 11.57 น.

พระพุทธศาสนาเป็นสถาบันหลักของชาติไทยที่มีบทบาทต่อวิถีชีวิตและจริยธรรมของสังคมไทยมายาวนาน อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการขยายตัวของเทคโนโลยีและสื่อออนไลน์

ทำให้ปรากฏพฤติกรรมของพระสงฆ์บางรูปที่ไม่เหมาะสม ถูกวิพากษ์ในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์และความศรัทธาของประชาชนโดยรวม แม้พฤติกรรมเหล่านั้นจะเกิดจาก "ส่วนน้อย" ดังที่สมเด็จพระสังฆราชรับสั่งไว้ แต่ก็มีพลังในการทำลายความมั่นคงทางศีลธรรมของพระพุทธศาสนาได้

จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงเกิดแนวคิดเรื่อง “การสังคายนากฎหมายสงฆ์” เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในบทบัญญัติต่าง ๆ และทบทวนการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคณะสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บทความนี้มุ่งวิเคราะห์แนวทางการสังคายนากฎหมายสงฆ์ ทั้งในมิติของหลักการทางพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมือง และระบบบริหารภายในคณะสงฆ์ เพื่อให้การดำเนินงานมีความสมดุลระหว่างการรักษาอัตลักษณ์ทางพระธรรม กับการตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคมร่วมสมัย

บริบทการสังคายนากฎหมายสงฆ์
จากคำแถลงของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ภายหลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ทรงมีพระดำรัสสนับสนุนให้มีการพิจารณาทบทวนและเพิ่มความเข้มข้นของกฎหมายสงฆ์ โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามพระวินัย เช่น ปาราชิก ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง

พระองค์ยังมีพระประสงค์ให้คณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมืองร่วมกันตรวจสอบกฎหมายเดิม โดยเฉพาะพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงให้ทันต่อสภาพสังคม พร้อมทั้งกำชับให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียจากกรณีเฉพาะจุด

หลักการและความสำคัญของการสังคายนากฎหมายสงฆ์
การสังคายนากฎหมายสงฆ์ในที่นี้ หมายถึง การทบทวน แก้ไข หรือเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองคณะสงฆ์ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้
เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์และความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการภายในของคณะสงฆ์
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่พุทธศาสนิกชน
เพื่อป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมเบี่ยงเบนของพระภิกษุสงฆ์

ในเชิงหลักธรรม การดำรงพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดคือหัวใจของพระพุทธศาสนา การที่ฝ่ายบ้านเมืองเข้ามาช่วยจัดระบบให้กฎหมายบ้านเมืองรองรับและสนับสนุนพระวินัย ไม่ใช่การแทรกแซง หากแต่เป็นการเสริมพลังให้กับกลไกคณะสงฆ์เพื่อปกป้องศาสนา

แนวทางการสังคายนากฎหมายสงฆ์
1 การทบทวนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 เป็นกฎหมายหลักในการจัดการโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของคณะสงฆ์ โดยควรทบทวนประเด็นสำคัญ เช่น
บทลงโทษที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดวินัยร้ายแรง
กระบวนการสอบสวนและถอดถอนพระภิกษุผู้กระทำผิด
การมีส่วนร่วมของพุทธบริษัทในการตรวจสอบ
การกำกับดูแลการใช้สื่อและการรับบริจาค

2 การใช้เทคโนโลยีในการติดตามและตรวจสอบ
ควรมีระบบฐานข้อมูลพระสงฆ์ระดับชาติ ที่สามารถตรวจสอบประวัติการบวช การจำพรรษา และการได้รับสมณศักดิ์ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียอย่างเหมาะสม

3 การจัดทำระเบียบและแนวปฏิบัติเสริมจากมหาเถรสมาคม
นอกจากกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ มหาเถรสมาคมควรจัดทำระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนในกรณีสำคัญ เช่น การใช้เงินวัด การออกสื่อของพระ การจัดการทรัพย์สินของวัด

ความท้าทายของการสังคายนา
แรงต้านจากภายใน: อาจมีพระสงฆ์หรือฝ่ายบริหารที่ไม่เห็นด้วยกับการเข้มงวดหรือการเปิดเผยข้อมูล
ปัญหาเชิงโครงสร้าง: ระบบการแต่งตั้ง การโยกย้าย และบทลงโทษในคณะสงฆ์ยังมีความเป็นลำดับขั้นและขาดกลไกการตรวจสอบจากภายนอก
การตีความพระธรรมวินัยกับกฎหมายรัฐ: อาจเกิดความขัดแย้งในหลักการ หากการตีความวินัยไม่ตรงกับการบังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง
แรงกดดันจากสังคมออนไลน์: แม้เหตุการณ์จะเกิดจากส่วนน้อย แต่โซเชียลมีเดียสามารถทำให้ภาพลักษณ์ของสงฆ์โดยรวมได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ข้อเสนอเชิงนโยบาย
จัดตั้งคณะกรรมการร่วม ระหว่างรัฐ คณะสงฆ์ และนักวิชาการทางศาสนา เพื่อทบทวนกฎหมายสงฆ์อย่างรอบด้าน
เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น จากพุทธบริษัททั้ง 4 เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน
เพิ่มงบประมาณและบุคลากรด้านการกำกับดูแลวัด โดยไม่ละเมิดหลักการของพระธรรมวินัย
สร้างระบบตรวจสอบภายในของคณะสงฆ์ ที่มีความเป็นอิสระและโปร่งใส
จัดทำคู่มือพระสงฆ์กับกฎหมาย เพื่อให้พระภิกษุมีความรู้ความเข้าใจต่อกฎหมายบ้านเมือง

สรุป
การสังคายนากฎหมายสงฆ์เป็นภารกิจสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์ ภาครัฐ และพุทธศาสนิกชนทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายเพื่อธำรงพระพุทธศาสนาให้มั่นคงในสังคมไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงบางส่วน แต่หากไม่จัดการอย่างเป็นระบบ ก็อาจนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาในวงกว้าง การดำเนินการจึงต้องอาศัยทั้งปัญญา ความกล้าหาญ และความเคารพในหลักธรรมอย่างแท้จริง
 
 

หน้าแรก » การเมือง