"วราวุธ" ส่ง ทีม "ศรส." หาเบาะแสอดีตพระแกล้งพิการ ห่มขาวเรี่ยไรเงิน ย้ำขอทานผิดกฎหมาย  วอนหยุดให้เงินเพราะสงสาร  ลั่นมูลนิธิสงเคราะห์เอกชน อย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือหาเงิน ระบุ พม. พร้อมดำเนินการทางกฎหมายทันที หากพบผิด เผย พม. จับมือ องค์การสวนสัตว์ฯ จ่อทำ MOU เปิดโอกาส คนพิการ-ผู้สูงอายุ เรียนรู้นอกสถานที่ หนุน จ้างงาน-จำหน่ายผลิตภัณฑ์ 

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีอดีตพระถูกจับสึกแล้ว เป็นชายสูงวัยนุ่งขาวแกล้งพิการเดินเรี่ยไรเงิน ซ้ำมีชาวบ้านหลงเชื่อถวายเงิน บริเวณตลาดบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. โดย ทีม ศรส.จังหวัดนนทบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเมื่อวานนี้ (11 พ.ย. 67) ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเคหะบัวทอง ตลาดบางบัวทอง และบริเวณโดยรอบ ซึ่งยังไม่พบชายสูงวัยแต่งชุดขาวถือบาตรมาเดินขอทาน

จากนั้น ได้พูดคุยกับพนักงานร้านสะดวกซื้อในเคหะบัวทอง ซึ่งบอกว่า ได้พบเห็นอดีตพระดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 67 และได้พูดคุยกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งบอกว่า ได้พบเห็นอดีตพระดังกล่าวเป็นครั้งแรกในวันที่ 11 พ.ย. 67 โดยแกล้งพิการ เพื่อที่จะขอเงินจากคนในตลาด หลังจากได้เงินแล้วจะเดินกลับไปที่รถกระบะที่จอดไว้ แต่ตอนลงจากรถยนต์ ยังเดินได้ปกติดี ไม่ได้เดินพิการเหมือนตอนขอเรี่ยไรเงิน ต่อมาได้มีการสอบถามกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทุกคนบอกตรงกันว่าเพิ่งเห็นมาที่นี่ครั้งแรก และคิดว่าไม่น่าจะมาที่นี่อีก เพราะมีนักข่าวมาลงทำข่าวในพื้นที่ น่าจะไปที่อื่นสลับกันไป 

ทีม ศรส.จังหวัดนนทบุรี จึงได้แจ้งกับประชาชน และร้านค้าต่างๆ ว่า หากพบเห็นอดีตพระดังกล่าวอีก ขอให้รีบแจ้งมาที่ ศรส. กระทรวง พม. ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี รวมทั้ง สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและติดตามอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การขอทานถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการแก้ปัญหาขอทานที่ดีที่สุดคือ เราควรหยุดการให้เงินขอทานด้วยความสงสาร เพื่อไม่เป็นการส่งเสริมการกระทำผิดกฎหมาย  อีกทั้งช่วยรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ

ลั่นมูลนิธิสงเคราะห์เอกชนอย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือหาเงิน 

 นายวราวุธ  กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวมูลนิธิเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ทำร้ายเด็ก ว่า ขณะนี้เด็กทั้ง 17 ราย ได้ถูกนำมาอยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. แล้ว ซึ่งมีความปลอดภัยดีทั้งกายทั้งจิตใจ ในส่วนของมูลนิธิฯ ดังกล่าว ทางกระทรวง พม. จะเร่งดำเนินคดี และตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องของใบอนุญาตต่างๆอย่างครบถ้วนว่ายังสามารถดำเนินการได้ถูกต้องหรือไม่ ถ้าหากว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ กระทรวง พม. เราจะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด และขอฝากไปถึงยังสถานดูแลเด็กรวมถึงมูลนิธิต่างๆ ขอให้ดูแลเด็กที่อยู่ในความดูแลให้ดี หากเพียงแค่คิดว่าจะใช้เด็กเหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ได้รับเงินสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่ายนั้น ขอให้คิดใหม่

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ต้องขอความกรุณาพี่น้องประชาชน ช่วยแจ้งเบาะแสเข้ามาที่สายด่วน พม. โทร 1300 หากว่าพบเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ ทางกระทรวง พม. จะร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและจังหวัด ดำเนินการทางกฎหมายกับมูลนิธิหรือว่าองค์กรต่างๆ อย่างถึงที่สุด เพราะว่าสวัสดิภาพของเด็ก การพัฒนาของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจนั้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่กระทรวง พม. ให้ความสำคัญ เพราะวันนี้ทรัพยากรเด็กเรามีน้อยลงทุกวัน การดูแลพวกเขาเหล่านั้นให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่าถ้ามีเบาะแสอย่างไร ขอให้ช่วยแจ้งเข้ามาที่กระทรวง พม. และในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของเราทุกคนทุกฝ่ายก็จะเร่งออกตรวจและดำเนินการดูแลสวัสดิภาพของเด็กให้ทั่วถึง
 
 พม. จับมือ องค์การสวนสัตว์ฯ จ่อทำ MOU เปิดโอกาส คนพิการ-ผู้สูงอายุ เรียนรู้นอกสถานที่ 

 นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวง พม. เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย ร่วมกับ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในวันที่ 18 พ.ย. 67 ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาเรียนรู้นอกสถานที่ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. อาทิ เด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ 

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ดังกล่าว กระทรวง พม. จะสนับสนุนเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแล เข้ารับบริการในการศึกษาเรียนรู้ในทุกรูปแบบที่สวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และร่วมสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายสำหรับวางจำหน่ายในพื้นที่ของสวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมทั้งพิจารณาคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. ที่มีคุณสมบัติตามที่องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยกำหนด เพื่อเข้ารับการฝึกอาชีพ และการจ้างงาน 

ในขณะที่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะสนับสนุนเรื่องค่าเข้าชมและการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. พร้อมทั้งจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย (Universal Design) ที่เข้าร่วมกิจกรรมของสวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ  นอกจากนี้ ทางสวนสัตว์จะสนับสนุนเรื่องพื้นที่ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. และส่งเสริมการฝึกอาชีพและการจ้างงาน ในพื้นที่ของสวนสัตว์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ  เป็นต้น