‘ประเสริฐ’  ประชุม ‘คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ’ เห็นชอบหลักการนโยบายสนับสนุน อปท. จัดซื้อจัดหาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันการติดเชื้อนิวโมคอคคัส (PCV) สำหรับเด็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี หวังลดการป่วยหนัก-อันตรายต่อสุขภาพ 

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 ว่า การประชุมครั้งนี้มีวาระเพื่อพิจารณา การดำเนินงานตามนโยบายเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดซื้อจัดหาวัคซีน ตามที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ผลักดัน โดยได้ดำเนินการนำร่องด้วยวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ใน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และชลบุรี ซึ่งในปัจจุบัน โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจมีแนวโน้มการระบาดในปี 2568 สูงขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสนิวโมคอคคัสก็พบว่ามีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 0-4 ปี ซึ่งโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนและมีข้อมูลทางวิชาการว่าวัคซีนมีผลในการลดอุบัติการณ์การติดเชื้อชนิดรุนแรงและแพร่กระจายได้ โดยที่ประชุมให้ความเห็นชอบในหลักการ การเพิ่มวัคซีนป้องกัน การติดเชื้อนิวโมคอคคัสสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นรายชื่อวัคซีนที่มีความสำคัญและจำเป็น พร้อมราคาอ้างอิง และมอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรค ประสาน อปท. ที่มีความประสงค์จะดำเนินการจัดซื้อจัดหาวัคซีนมาให้บริการแก่ประชาชนในท้องที่ตามนโยบาย
 
ด้าน นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบเรื่องสำคัญอีก 3 เรื่อง ได้แก่ ความก้าวหน้าการสร้างความร่วมมือการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงในระดับอุตสาหกรรม ผ่านการสร้างความร่วมมือในรูปแบบบริษัทร่วมทุน ระหว่างองค์การเภสัชกรรม และบริษัท SK Bioscience จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างขอรับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตของไทยให้พร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี
 
ขณะที่ผลการดำเนินงานตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยการดำเนินโครงการต่างๆ ของหน่วยงานเครือข่าย จำนวน 60 โครงการ มีผลการดำเนินงานผ่านค่าเป้าหมายทั้งสิ้นคิดเป็นร้อยละ 59.26 ของค่าเป้าหมายทั้งหมด 
 
และความก้าวหน้าการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร โดยนายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้รายงานว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ได้รับทราบการดำเนินงานของกรมควบคุมโรค ซึ่งมีคณะทำงานเพื่อติตตามสถานการณ์และ เฝ้าระวังควบคุมโรคในประเทศไทย และเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีน พร้อมกระจายวัคซีน ไปยังกลุ่มเป้าหมาย