นายสยาม หัตถสงเคราะห์ สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและคณะกรรมาธิการฯดีอี สภาผู้แทนราษฎร ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมทางไซเบอร์รวมถึงปัญหาการติดตามเงินที่ถูกอาชญากรรมทางไซเบอร์ฉ้อโกงไปที่ผ่านมาต้องใช้เวลานานในการติดตามเงินคืน ส่งผลให้หลายครอบครัวประสบปัญหาประสบปัญหาในการดำรงชีพเพราะต้องรอให้คดีเสร็จสิ้นซึ่งต้องใช้เวลานานหลายปี จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันมีเงินที่ติดตามได้มาแล้ว 2500 ล้านบาทและยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีมากกว่า 10,000 ล้านบาท 

 นายสยาม กล่าวด้วยว่า ล่าสุดคณะกรรมาธิการ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวหารือเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน พร้อมที่จะนำเสนอพระราชกำหนดไซเบอร์ 2 หลังจากที่พระราชกำหนดไซเบอร์ 1 มีผลบังคับใช้ แต่พบว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาได้  ดังนั้นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมาธิการดีอีเตรียมนำเสนอพระราชกำหนดไซเบอร์ 2 เข้าสู่การพิจารณาของสภาในสมัยประชุมหน้า    

 “กฎหมายฉบับนี้มีความทันสมัยมากขึ้น สามารถที่จะเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ พร้อมทั้งดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาทำงานร่วมกัน เพื่อติดตามเงินให้เร็วขึ้น จากเดิมอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี กว่าคดีจะแล้วเสร็จแต่หากพรก.ฉบับนี้มีผลบังคับผู้เสียหายจะใช้เวลาในการคืนเงินให้ผู้เสียหายเร็วขึ้นคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3-6 เดือนต่อราย หากพรก.ฉบับนี้ผ่านจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแน่นอน”นายสยาม กล่าว