วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 07:19 น.

การเมือง

นายกฯนำทัพตำรวจลุย ปราบยาเสพติดทั่วประเทศ ยึดยาบ้า - ไอซ์-คีตามีน -เฮโรอีน ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 10.28 น.

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2868  ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแถลงผลการปฏิบัติ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ประธานอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส. รวมถึง ผบก.ในสังกัด เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนสำหรับความร่วมมือ ตั้งแต่มี Seal Stop Safe เดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ ประมาณ 3เดือนครึ่ง เห็นได้ชัดว่าเมื่อทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการทำให้เกิดผลสำเร็จที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมให้ประชาชนได้เห็น โดยพ.ต.อ.ทวี เล่าให้ฟังว่า สมัยรัฐบาลไทยรักไทยที่ปราบยาเสพติดได้สำเร็จนั้นเนื่องจากผลิตในประเทศไทย จำนวนหนึ่ง แต่เวลานี้การผลิตอยู่ที่ต่างประเทศในประเทศเพื่อนบ้านที่มีกำลังผลิตมากขึ้น ซึ่งช่วงระยะเวลา 20ปี มีเทคโนโลยีเข้ามาการผลิตจึงเยอะมาก แต่วันนี้สามารถจับกุมได้เยอะมากในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

นายกฯ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนทุกฝ่ายเจ้าหน้าที่ทุกคนจนผู้ชี้เบาะแสที่ทำให้สามารถจับยาเสพติดได้เยอะ และคิดว่าเราต้องเร่งเครื่องทำเรื่องนี้ต่อ เพื่อให้ประเทศของเราพร้อมที่จะพัฒนาก้าวหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ยาเสพติดเป็นปัจจัยที่เป็นสิ่งกีดขวางทำให้ลูกหลานต้องติดยา พ่อ แม่ครอบครัวทุกข์ระทม จนถึงบางบ้าน มีการฆ่ากันแบบบ้าคลั่งเสียชีวิตก็เยอะ ที่สำคัญ อยากให้ทุกท่านเปิดใจรับเสมอคนที่ติดยาเสพติดทีพร้อมจะกลับมาในสังคม เราจะให้โอกาสและมีแผนการฟื้นฟูให้เขากับสู่สังคม เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ซึ่งทุกคนต้องการโอกาส ฉะนั้นเราเองก็เช่นกันไม่ยุ่งกับยาเสพติดก็ต้องการโอกาสทุกเรื่อง อยากให้ประชาชนให้โอกาสกับทุกคนที่อยากจะเริ่มต้นใหม่และพร้อมเป็นคนที่คลีนไม่มียาเสพติดตรงนี้สำคัญมากและต้องขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและเจ้าหน้าที่ที่ทำให้การปราบปรามยาเสพติดตอนนี้เกิดผลสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ มีแผนและเตรียมการถ้าเริ่มจะไปทางน้ำหรือทางอากาศ เราจะมีการป้องกันหรือปราบปรามจับอย่างไร ทุกฝ่ายจริงจังมาก

นายกฯกล่าวว่า ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ารัฐบาลจะสนับสนุนทุกวิถีทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี งบประมาณในการปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศของเรา และขอให้ทุกคนทราบว่าเมื่อรัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ผลต้องเกิดเป็นรูปธรรม และขอแรงสนับสนุนจากประชาชนด้วยในการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่ง ทุกท่านทำงานอย่างหนักหน่วงมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านมีความเข้มแข็งมีกำลังใจในการทำงานเยอะๆ และขอให้ปลอดภัย เพราะเวลาไปทำงานแบบนี้มีความเสี่ยงอย่างมากขอให้ทุกท่านมีกำลังใจที่ดีและประชาชนเข้าใจเห็นใจทุกท่านไปแบบนี้นานๆ เพื่อที่จะปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศของเรา 

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน ที่ผ่านมา (1 เม.ย. - ปัจจุบัน) หลังจากการเปิดปฏิบัติการ SEAL - STOP - SAFE กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้เดินหน้า ปิดล้อม-บุกจับ-ขยายผล-ยึดทรัพย์ เครือข่ายรายสำคัญได้กว่า 31 คดี ผู้ต้องหา 34 คน ยึดยาบ้า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 126 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 4,443 กิโลกรัม ยึดอายัดทรัพย์สิน 1,900 ล้านบาท ยุทธการเชิงรุกในการสกัดกั้นและขยายผลการปราบปรามยาเสพติดในครั้งนี้ รายละเอียด ดังนี้

สกัดกั้นจากชายแดนภาคเหนือ 10 คดี ผู้ต้องหา 17 คน ของกลาง ยาบ้ากว่า 29.93 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 70 กิโลกรัม, ไอซ์และคีตามีน 2,476 กิโลกรัม
สกัดกั้นจากชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ของกลาง ไอซ์ 697 กิโลกรัม
สกัดกั้นในพื้นที่ภาคใต้ไม่ให้ผ่านไปยังประเทศที่สาม 4 คดี ผู้ต้องหา 9 คน ของกลาง ไอซ์ 1,132 กิโลกรัม
สกัดกั้นลักลอบลำเลียงยาเสพติด ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทาง ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และกินี ตามโครงการ AITF 15 คดี ของกลาง ไอซ์ 137.68 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 57.26 กิโลกรัม

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลเปิดปฏิบัติการ "SEAL-STOP-SAFE" เมื่อ 1 ก.พ.68 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นจับกุมในพื้นที่ชายแดน โดยให้ทุกหน่วยเปิดปฏิบัติการบุกทะลวงเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญแบบไม่ให้ตั้งตัว เข้าถึงเป้าหมายอย่างเฉียบขาด ทลายจุดพักยา และเส้นทางลำเลียงอย่างเด็ดขาด พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรู บ้านพักหรู เงินสด ทองรูปพรรณ หรือทรัพย์สินที่ซุกซ่อนในรูปแบบซับซ้อน ทุกชิ้นถูกกวาดล้างอย่างไม่ปรานีและไม่มีหลุดรอดแม้แต่รายการเดียว ปฏิบัติการนี้สอดรับนโยบายอย่างเข้มข้น และที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ "จับคนผิด" แต่ไล่ล่าทุกเส้นทางการเงิน ขยายผลถึงทรัพย์สิน ดำเนินการยึด อายัด และฟ้องร้องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีละเว้น ไม่มียกเว้น! ทำให้มีผลการจับกุมและยึดทรัพย์สิน "เพิ่มขึ้นทุกมิติ" เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 และผลการปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (7 เดือน)

-ปิดล้อมตรวจค้น 25,745 เป้าหมาย, 6,549 เครือข่าย จับกุมผู้ค้ารายย่อย 34,563 คน ยึดยาบ้า 152 ล้านเม็ด, ไอซ์ 13,335 กิโลกรัม, อาวุธปืน 1,798 กระบอก, ระเบิด 4 ลูก และยึดทรัพย์สิน 2,795 ล้านบาท

-จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทุกข้อหาทั่วประเทศ 158,832 คดี ผู้ต้องหา 157,881 คน จับกุมตามหมายจับ 3,899 คน ดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน 2,338 คดีข้อหาฟอกเงิน 181 คดี ของกลางยาเสพติด ยาบ้า 645.93 ล้านเม็ด, ไอซ์ 34,223 กก., เฮโรอีน 938 กก., คีตามีน 4,471 กก. และยาอี 271,329 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 8,064 ล้านบาท พร้อมทั้งได้สั่งการให้ขยายผลถึงระดับเครือข่ายและผู้สั่งการ ถือเป็นสัญญาณเตือนแรง! ถึงกลุ่มค้ายาที่ยังเหลืออยู่ว่า "ไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย!"

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่าจากกรณีที่นางสาวแพทองธาร  แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ว่าปัญหายาเสพติดถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น "วาระแห่งชาติ" โดยจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ครอบคลุม และเป็นระบบ ทั้งการตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นเส้นทางลำเลียงการปราบปรามจับกุมผู้ค้า และการยึดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้กระทำผิดรายสำคัญ พร้อมทั้งมีระบบฟื้นฟูและติดตามผู้เสพ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรอีก และเพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพเกิดผลในทางปฏิบัติ รัฐบาลได้ผลักดัน ยุทธศาสตร์ SEAL - STOP - SAFE อย่างเข้มข้น โดย SEAL: ปิดล้อมพื้นที่ต้นทาง สกัดยาไม่ให้ทะลักเข้าไทย/ STOP: หยุดยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ โดยกวาดล้างผู้ค้าอย่างเด็ดขาด/ SAFE: ทำให้ชุมชนปลอดภัย ลูกหลานไทยห่างไกลยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สนองนโยบายดังกล่าวทันที พร้อมเปิดยุทธการเชิงรุกปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้นทั่วประเทศ ปิดล้อม-บุกจับ-ขยายผล-ยึดทรัพย์ ทั้งคน ทั้งเส้นทางการเงิน ทั้งทรัพย์สิน ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหายาเสพติดได้ โดยหากพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง