เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568  นายรัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย–กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ส่งออกผลไม้บริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังการปิดด่าน ว่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการและชาวสวนผลไม้ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถส่งออกผลไม้ไปยังกัมพูชาได้ แต่เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูผลไม้ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งขณะนี้ จังหวัดกำลังเร่งหาแนวทางช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะมังคุดและลองกอง ที่ผลผลิตออกมาในช่วงนี้

พร้อมย้ำว่า การปรับเวลาเปิดปิดด่านชายแดนที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบทุกภาคส่วน ทั้งชาวกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบด้านอาหารการกินที่มีราคาสูงขึ้น ขณะที่ไทยได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจการส่งออกและการค้าระดับชุมชน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบเรื่องของผลไม้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ที่ได้รับผลกระทบตามไปด้วย ทั้งนี้ มองว่าหากมีการเปิดด่านตามปกติจะส่งผลให้การเจรจาระหว่างกันง่ายมากขึ้น ซึ่งหากการปรับเวลาเปิดปิดด่านยังยืดเวลาออกไป ก็จะส่งผลกระทบมากขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนให้การสนับสนุนรัฐบาลในการปกป้องอธิปไตยของไทย แต่การดำเนินนโยบายใดๆ ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และประชาชนต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบ

นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย–กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์แรงงานชาวกัมพูชาว่าขณะนี้แรงงานชาวกัมพูชาเริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศบ้างแล้ว ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่ออีก 1-2 วัน จึงจะคาดการณ์ผลกระทบได้