วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 05:18 น.

การเมือง

ปัญญาสยามยามวิกฤติชาติ: ชายแดนไทย–กัมพูชา & ภาษีทรัมป์  บทเรียนจากเวที  "Thailand in Crisis"  

วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 13.58 น.

ปัญญาสยามยามวิกฤติชาติ: ชายแดนไทย–กัมพูชา & ภาษีทรัมป์  บทเรียนจากเวที  "Thailand in Crisis"  โดย ศ.(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย 

บทความนี้วิเคราะห์ “ปัญญาสยาม”— ทุนความรู้และพลังทางวิชาการของไทย— ท่ามกลางสองวิกฤติซ้อน (1) ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาที่ปะทุเป็นระยะ และ (2) ผลกระทบจากนโยบาย “ภาษีทรัมป์” ซึ่งซ้ำเติมห่วงโซ่อุปทานและส่งออกของไทย สอดประสานกับข้อเสนอของ ศ.(พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในเวทีเสวนา “Thailand in Crisis: วิกฤตประเทศกับบทบาทของมหาวิทยาลัย” ว่ามหาวิทยาลัยต้องเคลื่อนจาก “คลังสมอง” สู่ “คลังปฏิบัติการ” โดยผนึกกำลังกับรัฐและเอกชนเพื่อจัดการปมเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน

1. บทนำ: ภูมิรัฐศาสตร์ใหม่กับเศรษฐกิจโลกานุวัตร
ชายแดนไทย–กัมพูชา กำลังกลับมาเป็น flashpoint หลังเหตุปะทะรอบโบราณสถาน (เช่น ปราสาทตาเมือนธม) สะท้อนความเปราะบางด้านอธิปไตย วัฒนธรรม และผลประโยชน์ทรัพยากรชายแดน

นโยบายภาษีทรัมป์ (Trump Tariffs) รอบใหม่ในปี 2025 ครอบคลุมสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และยางพารา—สินค้าหลักของไทย—ทำให้ต้นทุนส่งออกเพิ่ม ≥ 15% และกดดันห่วงโซ่การผลิตอาเซียน

สถานการณ์คู่ขนานดังกล่าวกดดันความสามารถในการแข่งขันและเสถียรภาพทางสังคมของไทย จึงจำเป็นต้องระดม “ทุนปัญญา” เข้ามาแปรวิกฤติเป็นโอกาส

2. กรอบคิด “ปัญญาสยาม” ในห้วงวิกฤติ
มิติ    ปัญหาเชิงโครงสร้าง    บทบาทมหาวิทยาลัย (ตามข้อเสนอ ดร.สุรเกียรติ์)
เศรษฐกิจ    การพึ่งพาตลาดเดียว (สหรัฐ) และห่วงโซ่อุปทานเสี่ยง    วิจัยตลาดใหม่ (แอฟริกา LATAM) + นวัตกรรมทดแทนภาษี R&D
สังคม–วัฒนธรรม    ความเปราะบางของชุมชนชายแดน       จัดหลักสูตรสันติศึกษา Cross‑border Studies สร้างกลไก “มหาวิทยาลัยสันติภาพชายแดน”
สิ่งแวดล้อม    ทรัพยากรป่าและน้ำพรมแดนถูกแย่งชิง    ทำข้อมูลภูมิสารสนเทศ – Early‑warning system ร่วมไทย‑กัมพูชา
เทคโนโลยี    Digital divide ในพื้นที่ขัดแย้ง    ส่ง “Digital Peace Corps” นักศึกษา IT ลงพื้นที่เสริมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

แนวคิด Triple Helix (รัฐ–เอกชน–มหาวิทยาลัย) ถูกยกมาเน้นย้ำว่าเป็น “กลไกเชิงระบบ” จะแก้สองวิกฤติได้ต้องบูรณาการไม่ต่ำกว่า 5  ปีต่อเนื่อง

3. ชายแดนไทย–กัมพูชา: จากแนวปะทะสู่แนวร่วมพัฒนา
วิกฤติความทรงจำ (memory crisis) โบราณสถานคือ soft power คู่ขัดแย้ง—การตีความประวัติศาสตร์ที่ต่างกันสร้าง “วาทกรรมชาตินิยม–ศักดิ์ศรี”

บทบาทมหาวิทยาลัย: ตั้งศูนย์ Shared Heritage Lab ให้สองชาติวิจัยประวัติศาสตร์ร่วม สร้างพิพิธภัณฑ์ออนไลน์สองภาษา
ความเหลื่อมล้ำชายแดน
ด่านการค้าไม่เชื่อม value chain  ชุมชน—เกิดเศรษฐกิจนอกระบบและค้ามนุษย์
มาตรการปัญญา: ม.ชายแดนร่วมอบรม Border SME Upgrading + Sandbox ฟื้นฟูท่องเที่ยวเชิงอัตลักษณ์
การทูตทางวิชาการ
สถาปนาหลักสูตร Dual Degree ไทย–กัมพูชา (สันติศึกษา +Smart Logistics) เพื่อสร้าง “ทูตสังคม” รุ่นใหม่ ลดความหวาดระแวง

4. ภาษีทรัมป์: ความท้าทายห่วงโซ่การผลิตไทย
Short‑Run Shock: กำไรส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ลด 12% ใน Q3/2025, โรงงานยางแท่งภาคใต้ปิดชั่วคราว >15 แห่ง
Long‑Run Re‑shoring Risk: บริษัทยักษ์สหรัฐอาจย้ายฐานไปเวียดนาม–เม็กซิโก

บทเรียนปัญญาสยาม
Data Sandbox ร่วม ก.พาณิชย์ + มหาวิทยาลัย ทำ FTAs Impact Dashboard ติดตามมาตรการตอบโต้ภาษีแบบเรียลไทม์
ตั้ง “ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์อุตสาหกรรมแม่พิมพ์” ใน EEC วิจัยวัสดุใหม่ ลดพึ่งพา supply chain สหรัฐ
โปรแกรม “Trade Diplomacy Fellowship” ส่งนักศึกษาเศรษฐศาสตร์ไปประจำสถานทูตพาณิชย์—เสริมกำลังต่อรองระหว่างเจรจาภาษี

5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ระยะ    มาตรการหลัก    หน่วยนำ–หนุน
สั้น (1 ปี)    สร้าง Border Crisis Observatory เก็บข้อมูลความเสี่ยงรายสัปดาห์    ม.ลำปาง–ม.ขอนแก่น / กห.
กลาง (2–3 ปี)    จัดตั้ง Thailand–Cambodia Peace & Trade Corridor (TC‑PTC) เชื่อมโลจิสติกส์+วัฒนธรรม    ศอ.บต.–สกพอ.–มธ.
ยาว (5 ปี)    ปรับโครงสร้างส่งออกด้วย Green–Digital Value Chain เพื่อต้านภาษีคาร์บอนและมาตรการ 301 ใหม่    BOI–สวทช.–มหาวิทยาลัยกลุ่ม R&D

6. สรุป
“ชายแดนไทย–กัมพูชา” และ “ภาษีทรัมป์” อาจดูเป็นวิกฤติคนละขั้ว แต่ต่างสะท้อนความเปราะบางของระบบประเทศภายใต้ภูมิรัฐศาสตร์ยุคใหม่ บทเรียนจากเวที Thailand in Crisis ชี้ว่า ปัญญาสยาม ต้องก้าวจากห้องเรียนสู่สนามจริง เปลี่ยนมหาวิทยาลัยไทยจาก “คลังสมอง” ไปสู่ “คลังปฏิบัติการ” (action tank) ผ่านการบูรณาการรัฐ–เอกชน–สังคม ผลักเศรษฐกิจความรู้ (knowledge‑based economy) เป็นกลไกค้ำจุนชาติให้ข้ามพ้นวิกฤติอย่างยั่งยืน
 

หน้าแรก » การเมือง