วันอาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568 09:55 น.

การเมือง

“สมศักดิ์” เผยสถานการณ์แนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประชาชนกลับภูมิลำเนา ส่ง MCATT ดูแลจิตใจ

วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 15.53 น.

“สมศักดิ์” ถกบำบัดยาเสพติด เล็งทำค่ายอบรมทั่วประเทศ นำผู้เสพกลับเข้าสังคม พร้อมเผยสถานการณ์แนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประชาชนกลับภูมิลำเนา ส่ง MCATT ดูแลจิตใจ ชี้แนวโน้มฆ่าตัวตายลดลง ปัดปม สส.ประชาชนอภิปราย อสม.ฐานเสียงรัฐบาล ยันไม่จริง  

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายด้านยาเสพติด โดยมีนายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 

ภายหลังการประชุม นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมวันนี้ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้รับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมดในเรื่องของการบำบัดรักษา โดยได้ข้อสรุปว่าการดำเนินการฟื้นฟูผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย และกลับสู่สังคมเลิกยา สำหรับผู้ป่วยสีแดง สีส้ม ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลระยะเวลาหนึ่งก่อน เพื่อลดระดับความเข้มข้นของยาเสพติด เพื่อให้เป็นสีเหลืองสีเขียว และเราจะจัดเครือข่าย เข้าค่ายฟื้นฟูจิตใจ ซึ่งค่ายนี้จะต้องมีทุกจังหวัดอย่างน้อยหนึ่งแห่ง และมีค่ายที่มีอยู่เดิม 9 แห่ง รวมเป็น 85 แห่ง สำหรับผู้ติดยาระดับต้นที่จะเข้ามาฟื้นฟูฯ การดำเนินการในระดับแรกจะมีการอบรมผู้ที่จะไปเป็นครูของค่าย จะมีกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิตมาดำเนินการในส่วนของการอบรมครูผู้สอนที่จะไปทำความเข้าใจต่อไป 

“แนวทางบำบัดฟื้นฟู เราต้องบำบัดด้วยใจ มิฉะนั้นผลสำเร็จของการดำเนินการจะไม่ได้เปอร์เซ็นต์ที่สูงอาจ จะมีผู้คนกลับเข้าไปเสพอีก เมื่อบำบัดระยะหนึ่งแล้ว บุคคลเหล่านี้จะกลับเข้าสู่สังคม จะมีคนที่ช่วยติดตามดูแลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จะต้องหาคนไปติดตามดูแล เช่น อสม. หรือส่วนงานอื่นที่จะบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรม ส่วนวันเวลาในการอบรมฟื้นฟู ที่ผ่านมามีตั้งแต่ 12 วัน ขึ้นไป 1 เดือน 2 เดือน 4 เดือน ก็แล้วแต่ประเภทผู้เข้ามาบำบัด หลักสูตรนี้ หากมีผู้เข้าร่วมเยอะอาจจะต้องใช้ระยะสั้น และอาศัยการติดตามดูแล แต่ต้องทำด้วยใจและให้ใจกับผู้เสพที่เข้ามาบำบัด”นายสมศักดิ์กล่าว 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีประชาชนตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาเริ่มทยอยกลับเข้าสู่ภูมิลำเนา ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความรู้แนะนำให้มีการสำรวจบ้านเรือนสิ่งชำรุดเสียหายคราบสกปรกต้องทำความสะอาดและสำรวจว่าบริเวณใกล้ๆ มีโลหะวัตถุระเบิดหรือไม่อย่างไร หากพบเห็นก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้าไปดูแลจัดการ พร้อมกับทำเอกสารแจกจ่าย โดยมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ด้วย 

ขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกรมสุขภาพจิต MCATT ไปช่วยประเมินสุขภาพจิตประชาชนที่กลับภูมิลำเนา จากเดิมที่เคยอยู่ในศูนย์มีเด็กหลายครอบครัวรวมกัน แต่พอกลับเข้าบ้านอาจจะเหงา ก็เลยตามไปจัดกิจกรรมดูแลคัดกรองเรื่องจิตใจซึ่งยังพบว่า มีผู้ที่จะต้องดูแลประคับประคองจิตใจอยู่เยียวยาเพิ่มเติม โดยตัวเลข 4 จังหวัด มีประมาณ 5,000 คน ขณะที่ตัวเลขการเสี่ยงฆ่าตัวตายยังมีแนวโน้มลดน้อยลงแต่ยังต้องติดตามตลอดซึ่งตัวเลขของวันที่ 13 สิงหาคมอยู่ที่ 499 คนซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปพูดคุยดูแลต่อ 

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีสส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 ถึงการจ่ายค่าตอบแทนให้ อสม.จะเป็นช่องทางสร้างฐานการเมืองว่า ไม่จริง ตนเข้าใจว่าเขาบอกว่าอสม.ทำงานดี แล้วหน่วยงานอื่นจะเอาตัวอย่าง อย่างนั้นมากกว่า ถ้าบอกของเราดี ก็ดีอยู่แล้วก็ทำต่อไป ส่วนจะนัยทางการเมืองในเรื่องฐานเสียงหรือไม่นั้น ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขทำดีอยู่แล้ว ก็ทำต่อไป ส่วนกระทรวงอื่นก็ต้องไปทำกระทรวงนั้น วันนี้ ตนจะสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. ซึ่ง วันที่ 20 ส.ค.นี้ สภาฯ จะมีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.อสม. ซึ่งมีทั้ง 5 หมวด โดยในหมวด 5 จะมีการระบุถึงค่าป่วยการ ค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ ค่าห้องพิเศษ และมีบัญชีนอกงบประมาณ  ซึ่งบัญชีนอกงบประมาณโดยบัญชีนอกงบประมาณ ส่วนนี้ถ้าลดค่าใช้จ่ายอย่างโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs ที่ต้องใช้จ่ายในการรักษาถึงประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี  หากสามารถลดได้ 2-3 หมื่นล้านบาทจะได้นำเงินส่วนนี้มาเป็นรางวัลให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงอสม.ด้วย หรือทำดีมีรางวัลลดภาษีให้ เรื่องนี้สธ.ทำหนังสือเสนอเข้าครม.ไปแล้วโดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติในเรื่อง NCDs ไม่ได้มีอะไรใหม่  เมื่อถามว่า อสม.จะเป็นฐานเสียการเมืองหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำไว้ แต่มาทำให้ดีขึ้น แสงดว่าเขาก็เห็นว่าสิ่งที่เราทำมันดี ซึ่งกำลังจะเป็นกฎหมายที่จะทำ 
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง