วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 22:41 น.

การเมือง

รับมือ "คัลแมกี" ถล่ม! "ธรรมนัส" สั่งระบายน้ำทั่วประเทศ กทม.เฝ้าระวัง "3 น้ำ" ซัดพร้อมกัน

วันศุกร์ ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 16.36 น.

"ธรรมนัส" สั่งกรมชลฯ–สทนช. รับมือ “คัลแมกี” เตรียมแผนระบายน้ำทั่วประเทศ ปลัดเกษตรฯ สั่งถอดบทเรียนปี 54 รับ "3 วันอันตราย" 8–10 พ.ย. กรุงเทพฯ เจอ "3 น้ำ เจ้าพระยาแตะ 98%

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ซึ่งกำลังเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงวันที่ 8–10 พฤศจิกายนนี้ ว่า ได้มอบหมายให้ กรมชลประทาน ประสานงานใกล้ชิดกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อบริหารจัดการมวลน้ำและปริมาณฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ธรรมนัสกล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำในจังหวัดปทุมธานีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ายังสามารถบริหารจัดการได้ในภาพรวม แต่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะสภาพอากาศแปรปรวน พร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณใกล้เต็มความจุ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้เร่งพร่องน้ำและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งในช่วงพายุเคลื่อนผ่าน

ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักจากพายุคัลแมกี โดยย้ำให้บริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมทั้งนำบทเรียนจากอุทกภัยใหญ่ปี 2554 มาปรับใช้กับแผนบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน ซึ่งมีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOT) ของกรมชลประทาน

ปลัดเกษตรฯ ระบุว่า กระทรวงได้สั่งการเพิ่มเติมให้กรมชลประทานเร่งทำความสะอาดคูคลอง เพิ่มพื้นที่รับน้ำ และหากมีผลกระทบต่อประชาชนจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด ช่วงวันที่ 8–10 พฤศจิกายนนี้ถือเป็น “3 วันอันตราย” ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่อาจเผชิญ “3 น้ำ” พร้อมกัน ได้แก่ น้ำฝน–น้ำเหนือ–น้ำหนุน

“พื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ได้เพราะเครื่องสูบน้ำ กรมชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำทุกจุด เพื่อเร่งระบายน้ำในกรณีฝนตกหนัก” นายธเนศร์กล่าว พร้อมยืนยันว่า ปริมาณน้ำปีนี้ไม่มากเท่าปี 2554 และสถานการณ์น้ำเหนือไม่น่ากังวล

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดพบว่า 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำรวมกว่า 24,398 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 98% ของความจุอ่าง สูงกว่าปีที่ผ่านมา 2,593 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเขื่อนภูมิพล–สิริกิติ์–ป่าสักฯ อยู่ในระดับเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) ต้องบริหารระบายอย่างรอบคอบ

ส่วนภาพรวมเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 63,877 ล้านลูกบาศก์เมตร (90% ของความจุอ่างทั้งหมด) มากกว่าปีก่อน 4,660 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีเขื่อน 11 แห่งที่มีระดับน้ำสูงกว่าระดับควบคุมตอนบน เช่น เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แม่งัดสมบูรณ์ชล ป่าสักชลสิทธิ์ และอุบลรัตน์

กรมชลประทานยืนยันว่าได้เตรียมพื้นที่รับน้ำและแผนระบายน้ำล่วงหน้าแล้ว เพื่อบรรเทาผลกระทบจากฝนหนักและพายุ “คัลแมกี” ที่จะเคลื่อนเข้าสู่ภาคอีสานและภาคกลางในช่วงสุดสัปดาห์นี้

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง