เมื่อวันที่ 20  ธันวาคม 2568   เวลา 14.00 น.  ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 7 ราย ของพรรคกล้าธรรมได้แก่ นายไชยา พรหมา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีต สส.หนองบัวลำภู เขต 2, นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต สส.นครนายก 5 สมัย, นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 นครนายก, นายศักดา คงเพชร อดีต สส.ร้อยเอ็ด, นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 4 และนางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 9

โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายไชยาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพ เคยร่วมงานกันในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นถึงฝีมือและผลงาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหมูเถื่อน ยืนยันว่าผู้สมัครทั้ง 7 คน เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ เชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับเข้าสู่สภาได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมต้อนรับทุกคนเข้าสู่ครอบครัวกล้าธรรมอย่างเป็นทางการ

ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า การเลือกตั้งถือเป็นสนามรบทางการเมือง ทุกพรรคต้องแข่งขันกันอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเลือกตั้งแล้ว ทุกฝ่ายสามารถจับมือทำงานร่วมกันได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากนี้พรรคจะมีว่าที่ผู้สมัครมาร่วมงานเพิ่มเติม โดยมีนักการเมืองหลายรายติดต่อขอร่วมงานกับพรรคอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายไชยา กล่าวว่า การตัดสินใจเข้าร่วมพรรคกล้าธรรม เนื่องจากเห็นถึงความชัดเจนของนโยบาย โดยเฉพาะด้านการเกษตร ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของภาคอีสาน ตนทำงานการเมืองมา 9 สมัย อยู่กับเกษตรกรมาโดยตลอด และเห็นว่าปัญหาหลายเรื่องยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง โดยเฉพาะรายได้เกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภูยังอยู่ในลำดับท้ายของประเทศ

“พรรคการเมืองหลายพรรคเคยให้คำมั่นสัญญากับประชาชนในภาคอีสานไว้จำนวนมาก แต่เมื่อเข้ามาบริหารประเทศกลับไม่สามารถผลักดันนโยบายให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งเงินช่วยเหลือเกษตรกร นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงเงินชดเชยไร่อ้อยเพื่อลดการเผาและปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งยังเป็นคำถามค้างคาใจของประชาชน การย้ายพรรคครั้งนี้ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการตัดสินใจเพื่อประชาชนในภาคอีสาน และเชื่อว่าพรรคกล้าธรรมซึ่งรับผิดชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถแก้ไขปัญหาเกษตรกรได้ตรงจุด ตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง“

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า สมาชิกพรรคกล้าธรรมจำนวนมากล้วนเติบโตมาจากสายการเมืองเดียวกัน จึงไม่เห็นด้วยกับการใช้คำว่า “งูเห่า” กับผู้ที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมอุดมการณ์ พร้อมยืนยันว่าพรรคกล้าธรรมให้ความสำคัญกับการทำงานจริง แก้ปัญหาจริง และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง