วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568 01:57 น.

การเมือง

"อ.เชน ยศชนัน" เปิดวง YPP Dialogue พัฒนาคนคือกัวใจสำคัญสูงสุด  เปิดทางนวัตกรรมพาคนไทยหลุดพ้นความยากจน

วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.37 น.

"อ.เชน ยศชนัน" เปิดวง YPP Dialogue ชี้การพัฒนาคน คือกัวใจสำคัญสูงสุด และต้องกล้าคิดใหม่ ตั้งเป้าประเทศรายได้สูง เชื่อม "การศึกษา-อุตสาหกรรม-เศรษฐกิจ"  ปรับระบบวิจัย เปิดทางนวัตกรรมพาคนไทยหลุดพ้นความยากจน

เมื่อวันที่ 20  ธันวาคม 2568  พรรคเพื่อไทย โดย PTP Academy จัดกิจกรรม YPP Dialogue ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “นโยบายความมั่นคง และนโยบายการพัฒนากำลังคน” ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เปิดพื้นที่ให้สมาชิก YPP Club รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ และข้อเสนอเชิงนโยบายอย่างเข้มข้น

ช่วงแรกของกิจกรรมเป็นการพูดคุยด้าน นโยบายความมั่นคง โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต้อนรับ พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์เบื้องหลังการทำงานด้านความมั่นคง ภาพรวมสถานการณ์ ปัญหา และความท้าทายในการขับเคลื่อนนโยบายความมั่นคงในฉบับพรรคเพื่อไทย

จากนั้น สมาชิก YPP Club รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ร่วมสะท้อนมุมมองต่อการดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด , การแก้ไขปัญหาแก๊งหลอกลวงออนไลน์ (Scammer) ความมั่นคงตามแนวชายแดน และ การบริหารจัดการกองทัพ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และเสนอแนวทางเชิงนโยบายเพื่อการปรับปรุงและต่อยอดในอนาคต

ช่วงที่สองเป็นการพูดคุยด้าน นโยบายการพัฒนากำลังคน โดย ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา โอกาสและความท้าทายของประเทศไทยในการพัฒนาศักยภาพคน รวมถึงทิศทางและแผนการพัฒนากำลังคนในฉบับพรรคเพื่อไทย

โดย ศ.ดร.ยศชนัน ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ที่เชื่อมโยงระหว่าง "การศึกษา-อุตสาหกรรม-เศรษฐกิจ" โดยเน้นย้ำว่าประเทศไทยในปัจจุบันเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนเกินกว่าจะแก้ด้วยมิติเดียว ทั้งเรื่องค่าเงิน เทคโนโลยีดิสรัปชัน และกติกาโลกใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนบทบาทของกระทรวงอุดมศึกษาฯ เป็น "กระทรวงเศรษฐกิจ" อย่างเต็มตัว การพัฒนากำลังคนจึงต้องเปลี่ยนจากเพียงแค่การเรียนการสอน ไปสู่การสร้างระบบนิเวศแห่งนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) อย่างแท้จริง

โดย ศ.ดร.ยศชนัน กล่าวตอนหนึ่งว่า “วันนี้เราต้องกล้าคิดใหม่แบบยักษ์ เป้าหมายของเราต้องชัดเจนคือการพาประเทศไทยไปสู่ ‘ประเทศรายได้สูง’ โดยใช้กระบวนการ Backward Design ย้อนกลับมาดูว่าอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการคนแบบไหน ปริมาณเท่าไหร่ แล้วจึงออกแบบบทบาทของสถาบันอาชีวะศึกษาและมหาวิทยาลัยให้ตอบโจทย์นั้น เราต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิจัยให้กล้าที่จะ ‘ล้มเหลวได้อย่างสุจริต’ สร้างระบบที่เอื้อให้นักวิจัยทำโครงการที่มีความเสี่ยงเชิงสร้างสรรค์ได้โดยไม่ถูกลงโทษด้วยระบบงบประมาณแบบเดิม ความรู้จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการพาคนไทยหลุดพ้นจากกับดักความยากจน และเปิดโอกาสให้ทุกคนก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดของสังคมได้ไม่ว่าเขาจะเกิดที่ไหนก็ตาม

สำหรับการยกระดับมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษา ศ.ดร.ยศชนัน เสนอให้ปรับเปลี่ยนโมเดลการเรียนรู้ให้เป็นแบบ "ทุกช่วงวัย" ผ่านระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) ที่มีความยืดหยุ่น สามารถสะสมและโอนย้ายหน่วยกิตได้ตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ Talent ไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ Semiconductor, Data Center, เทคโนโลยีชีวภาพและการแพทย์ (BioTech/Medical), ยานยนต์ไฟฟ้าและการซ่อมบำรุงทางน้ำ (EV/Marine) และเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (ESG/Low Carbon) ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ

ในส่วนของปัญหาเชิงระบบของการวิจัยในปัจจุบัน ศ.ดร.ยศชนัน ได้เสนอแนวทางปรับปรุงระบบทุนวิจัยให้เป็นแบบ "Rule-based Automation" เพื่อลดความล่าช้าและขั้นตอนเอกสารที่ซับซ้อน โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการงวดงานและเงื่อนไขการเบิกจ่ายให้รวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งผลักดันการจัดทำ "Patent Landscape" หรือศูนย์ข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาระดับประเทศ เพื่อให้นักวิจัยและภาคเอกชนไทยมองเห็นช่องว่างในการแข่งขัน และสามารถจดสิทธิบัตรในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการเสนอมาตรการดึงดูดและรักษาบุคลากรทักษะสูง (Talent Magnet) ทั้งไทยและต่างประเทศ ผ่านรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น การให้ Talent ที่อยู่ต่างประเทศสามารถร่วมเป็นโค้ชหรือเมนเทอร์ในโครงการสำคัญของไทยได้ รวมถึงการพัฒนา "ครูแนะแนวดิจิทัล" (Personalized Guidance) ที่ใช้ฐานข้อมูลอาชีพและเส้นทางสกิล (Skill Path) มาช่วยให้เด็กและเยาวชนมองเห็นขั้นตอนที่ชัดเจนในการก้าวไปสู่งานเป้าหมายในอนาคต

ต่อมา สมาชิก YPP Club รุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ได้ร่วมสะท้อนภาพการดำเนินนโยบายด้านการพัฒนากำลังคนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา พร้อมให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายใน 4 ด้านสำคัญ ได้แก่สถาบันอุดมศึกษาในฐานะ “ศูนย์กลางการพัฒนาคน” (Higher Education as a Manpower Hub) , การเรียนรู้ตลอดชีวิตและการสะสมทักษะ (Lifelong Learning & Credit Bank) , การดึงดูดและเชื่อมโยงบุคลากรทักษะสูงระดับโลก (Global Talent Connection) และการกำหนดทักษะแห่งอนาคตและการเชื่อมโยงอุปสงค์-อุปทานกำลังคน (Future Skills Benchmarking and Labor Market Demand–Supply Mapping)

กิจกรรมปิดท้ายด้วยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึก เพื่อมองหาจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางการปรับปรุงนโยบายให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของประเทศ ระหว่าง ศ.ดร.ยศชนัน นายภูมิธรรม และผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งได้มีการนำข้อเสนอของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาพัฒนาเป็นนโยบายในอนาคตต่อไป
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง