วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568 14:02 น.

ภูมิภาค

สาวหวิดถูกไอ้หื่นเดนคุกข่มขืน เข้าชี้หน้าคนร้ายแล้ว-ชาวบ้านสุดระแวง

วันอังคาร ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2562, 13.47 น.


สาวหวิดถูกไอ้หื่นเดนคุกข่มขืน
เข้าชี้หน้าคนร้ายแล้ว-ชาวบ้านสุดระแวง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสาวเอ (นางชนิดาภา ทองกลัด) อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 ม.4 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท  ว่าถูกนายพรรษา อายุประมาณ 25 ปี เพื่อนบ้านในละแวกที่อยู่อาศัยเดียวกัน พยายามข่มขืน โดยใช้เชือกรัดคอ ในยามวิกาล เมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 14 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา นั้น เบื้องต้น ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางน้ำสาคร เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ แต่อยากวอนขอให้หน่วยงานเร่งนำตัวผู้กระทำผิดลงโทษตามกฎหมาย เพราะปกติอยู่กับแม่ และลูกน้อยอีก 2 คน สามีทำงานที่ กรุงเทพฯ กลัวว่าคนร้ายจะวกกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก สามีก็ต้องลางานมาเฝ้าที่บ้าน เนื่องจากไม่กี่วันมานี้ คนร้ายก็มาที่บ้านอีก ซุ่มดูอยู่ในป่า เหตุการณ์ผ่านไป 1 สัปดาห์เต็มๆแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้านั้น


ล่าสุดเวลา 17.30 น. วันที่ 21 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางสาวเอเพื่อสอบถามเกี่ยวกับคดีความที่บ้านหลังดังกล่าว พบ นางสาวเอ กำลังพูดคุยกับ นายบุญมี สีนาง  กำนันตำบลอู่ตะเภา  และผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้ามาคุยเกี่ยวกับคดีความ และความคืบหน้า รวมไปถึงข้อเท็จจริงของคดีนี้


นางสาวเอ (นางชนิดาภา ทองกลัด)เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวออกไป เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่มีเสียงหมาเห่า เพราะ ถ้าหมาเห่า และวิ่งไปแถบป่า คือนายพรรษามาด้อมๆมองๆ แต่นี่ไม่มีเสียงหมาเห่า และก็พยายามส่องไฟไปในป่า ก็ไม่มี คาดว่า นายพรรษา อาจจะไปอยู่กับญาติอีกตำบล เรื่องคดีความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางน้ำสาคร ได้เรียกตอนไปช่วงเย็นวานนี้เพื่อ ชี้หน้าคนร้าย โดยเป็นหน้าจากทะเบียนราษฎ์ ตนก็ชี้ได้ชัดเจน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้จนถึงทุกวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะออกหมายจับภายใน 2-3 วันนี้


ทุกคืนยังคงหวาดระแวง กลัวว่าคนร้ายจะหวนกลับมาอีก แต่ตอนนี้มีคนมาอยู่ด้วยตลอด แต่ก็อดคิดถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญไม่ได้ คิดขึ้นมาตอนไหนก็กลัวเมื่อนั้น ภาพเหตุการณ์ยังอยู่ในหัวตลอด อยากให้ตำรวจจับคนร้ายไวๆ เพราะคนร้ายอยู่ที่ลับตนอยู่ที่แจ้งส่วนเรื่องที่คนร้ายเคยมาบ้านก่อนหน้านี้นั้นจริงเพราะสนิทกับพี่ชายของตน มากินดื่มกันปกติ แต่นายพรรษาก็ชอบมองเข้ามาในบ้าน ตนก็สังเกตตลอดเพราะกลัวของหาย จนพี่ไปทำงานต่างจังหวัด และนายพรรษาก็พ้นโทษ แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้


นางมาลี สุขสว่าง อายุ 56 ปี แม่ค้าขายของชำและอาหารตามสั่ง เปิดเผยว่า ช่วงปีก่อน ที่นายพรรษา จะติดคุก เคยโขมยของที่ร้าน เป็นเหล้า 1 กลม บุหรี่ 1 คอตตอน มีดหลวงปู่นะ 1 เล่ม แล้วก็นำไปขายตามที่ต่างๆ พอตนและสามีคาดคั้น ก็ยอมรับว่าเป็นคนเอาไป เอาเงินมาคืนเป็นค่ามีด 500 บาท และนำบุหรี่มาคืน 1 ซอง ส่วนเหล้าและบุหรี่ที่เหลือ ดื่ม และสูบไปหมดแล้ว ล่าสุดวันเกิดเหตุ นายพรรษา ได้มาซื้อถุงมือสีม่วงที่ใช้ก่อเหตุที่ร้านตน ตนก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรไม่ได้ถาม ขายไปตามหน้าที่ จากนั้นก็เดินหายไป ไม่รู้ว่าจะไปก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว รูปร่างของนายพรรษา เป็นคนผิวดำ ตัวสูงๆ พูดไม่ค่อยเก่ง แต่ติดนิสัยลักเล็กโขมยน้อย มาตั้งนานแล้ว ของเล็กๆน้อยชาวบ้านหายหมด น้ำมันเครื่องสูบน้ำในนา ก็ยังเอามาขาย ข้าวที่คนแก่กินเหลือไว้ ก็มาโขมยกิน แต่ชาวบ้านไม่มีหลักฐานจึงไม่สามารถเอาผิดได้ ตั้งแต่นั้นมา ตนก็ติดกล้องวงจรปิด เผื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานถ้ามาก่อเหตุอีก


นางสาวกนกวรรณ เกิดแก้ว อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า ช่วงปีก่อนอะไหล่รถจักรยานยนต์ แฟน ก็ถูกโขมยไปขายที่โรงรับซื้อของเก่า ทั้งยังมีแห ที่แขวนไว้ก็ถูกนายพรรษา โขมยไป ที่สามารถยืนยันตัวตนได้เพราะ ของที่หายไป มีคนนำกลับมาขายคืนให้พ่อ เพราะพ่อเคยบอกว่าแหหายไป แต่นายพรรษาเอาไปขายให้จึงนำมาขายคืนให้พ่อ จนต้องตีสังกะสี ล้อมรั้ว ปิดทางเข้าออกข้างบ้าน เพราะกลัวว่าของจะหายอีก

หน้าแรก » ภูมิภาค