ในอดีต บ้านเพเป็นเพียงทางผ่าน เป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวจะข้ามไปเกาะเสม็ด และจุดซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ แต่วันนี้ บ้านเพกลับมิใช่แค่ทางผ่านของนักท่องเที่ยว อีกต่อไป เมื่อมีกลางนาคาเฟ่ เปิดต้อนรับ นักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักผ่อน รับประทานอาหารอร่อย จิบกาแฟ ชมบรรยากาศท้องนา ทุ่งดอกหญ้า และพรรณไม้นานาชนิด

รุ่งโรจน์ ไกลเนียม อายุ 39 ปี เจ้าของกลางนาคาเฟ่ บอกว่า เดิมนั้นเป็นคนเชียงใหม่เรียนจบรัฐศาสตร์ สวนสุนันทา พอจบก็ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่การบินไทย ทำงานได้3ปี ก็ต้องออกมาช่วยพี่สาวซึ่งทำธุรกิจอยู่ที่บ้านเพระยอง และคลุกคลีอยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวมานานกว่า 10 ปี ตนมองว่าบ้านเพมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก จึงอยากทำอะไรให้บ้านเพเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ประกอบกับพี่สาวได้ซื้อที่ดินไว้ 13 ไร่ จึงตัดสินใจใช้เงินที่เก็บสะสมลงทุนพัฒนาพื้นที่ เปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบ้านพัก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร แต่ไม่ได้ทำใหญ่โต ตั้งใจทำเล็กๆ เพื่อดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง เน้นให้ลูกค้าได้เข้ามาพักผ่อน ถ่ายภาพได้หลากหลายมุม มีแปลงนาข้าวสาธิต เลี้ยงแกะไว้สองตัวชื่อ กะทิ กับชบา ให้ใกล้ชิดคน  ส่วนอาหารจะเน้นวัตถุดิบที่ทางร้านผลิตได้เอง เช่นไข่เป็ดไข่ไก่ นำมาจากฟาร์ม พืชผักออแกนิค ก็ปลูกไว้กินเองและบริการลูกค้าด้วย เรียกว่า มาแล้วสุขทั้งกายและใจ

ส่วนเมนูที่ขึ้นชื่อ มากคือ ปีกไก่ทอดราดซอสน้ำปลา นำปีกไก่มาทอดนาน 15 นาทีจนกรอบนอกนุ่มในแล้วคลุกกับซอสที่ปรุงใหม่แบบจานต่อจานด้วยสูตรของทางร้าน จะได้ไก่ราดซอสที่มีรสชาติหวานเค็มกำลังพอดี ทานเป็นของว่างได้อร่อยถูกใจ ส่วนเล้งแซบ ของที่นี่ จะเสิร์ฟเป็นหม้อไฟโบราณ กระดูกติดเนื้อชิ้นใหญ่ เคี่ยวจนเปื่อยกำลังดีเนื้อไม่ยุ่ยจนเกินไป ปรุงน้ำซุปแซบจัดจ้าน อีกเมนูที่แนะนำคือ ยำสามไข่เป็นการคลุกเคล้าระหว่างไข่เยี่ยวม้า ไข่แมงดาทะเล และไข่แดง รสจัดแต่นุ่มนัวหนึบหนับจากรสสัมผัสของสามไข่  นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนูอื่นๆอีกหลายอย่างที่ลูกค้าชื่นชอบ เช่นยำไข่แมงดา ปลาลุยสวน ปลาสมุนไพร เป็นต้น

ที่นี่ ยังมีแปลงองุ่นถึง 14 สายพันธ์ ปลูกให้ลูกค้าเข้าชม ถ่ายภาพผลองุ่นที่ออกผลเป็นพวงสวยงาม  และยังจับจององุ่นไว้ได้เมื่อถึงเวลาสุกเต็มที่ก็เข้ามารับไป โดยเฉพาะพันธ์ไร้เมล็ด บิวตี้และแบรคโอปอ ที่ขณะนี้ กำลังออกลูกดก เริ่มมีลูกค้าเข้าจับจองไว้จนใกล้จะหมดแล้ว..