เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทองว่า มีคนตกปลากระเบนราหูหรือปลากระเบนเจ้าพระยาขนาดใหญ่ ได้บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 4 ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายอิทธิพร  ชื่นใจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/5 หมู่ที่ 1 ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ผู้ตกปลากระเบนราหูได้ยืนอยู่กับเพื่อน ๆ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอ่างทองอยู่ริมแม่น้ำ โดยบริเวณริมตลิ่งมีเชือกผูกโยงปลากระเบนอยู่ในแม่น้ำ

 

จากการสอบถามนายอิทธิพร กล่าวว่า ปกติตนและเพื่อน ๆ มักจะหาเวลาว่างออกมาตกปลากันเป็นประจำ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาตนก็ออกมาตกปลาตามปกติ จนกระทั่งเมื่อช่วงประมาณตี 4-5 มีปลามาติดเบ็ดตน ตอนแรกตนก็เข้าใจว่าเป็นปลาธรรมดาทั่วไป ก็ไปเย่อเบ็ดตามธรรมดา ตนดึงเบ็ดอยู่นาน ปลาก็ยังไม่ยอมเข้าฝั่ง ผลัดกับเพื่อนบ้านตนดึงเองบ้าง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงปลาถึงได้เข้าใกล้เข้ามาจนกระทั่ง พอมาตอนเช้าถึงได้เห็นว่าเป็นปลากระเบนขนาดใหญ่มาก ตนตะลึงมากเพราะไม่เคยเจอปลาขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน ตอนแรกตนจะปล่อยปลาไปเพราะรู้ว่าเป็นสัตว์คุ้มครอง แต่มานึกอีกทีก็กลัวปลาจะเป็นอันตรายเนื่องจากใช้เวลาดึงมาอยู่นาน อาจเกิดการบอบช้ำ จึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่จากกรมประมงมาตรวจสอบก่อนที่จะปล่อย ซึ่งระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาถึงก็ได้พบกับพี่นพและเจ้เข็ม สองสามีภรรยาที่รู้จักกัน ซึ่งเป็นคนชอบช่วยเหลือ ได้มาติดต่อขอร่วมทำบุญซื้อปลากระเบนตัวดังกล่าว และรอปล่อยคืนธรรมชาติในแม่น้ำเจ้าพระยาตามเดิม

 

ด้านนายไกรสร  ระศรี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากตนรับแจ้งจากนายอิทธิพร ตนก็ได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ โดยเมื่อมาถึงก็สอบถามถึงที่มาที่ไป ก็ทราบว่าตกปลาได้ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดและใช้เวลาในการดึงอยู่นาน ก่อนที่จะช่วยกันยกมาดูตัว และผูกล่ามเอาไว้ในแม่น้ำ ตนลองดูแล้วพบว่าปกติปลากระเบนจะไม่ได้พบเจออยู่อาศัยบริเวณนี้แต่จะเคยเจออยู่บริเวณ ต.เทวราช อ.ไชโย แต่คาดว่า ช่วงนี้น้ำในแม่น้ำลง ประกอบกับมาพบว่าปลากระเบนตัวนี้ได้คลอดลูกมา ก็คาดว่าน่าจะมาอยู่ในแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เพื่อหาที่คลอดลูก แต่ก็มาติดเบ็ดดังกล่าว เบื้องต้นตนได้ขอความร่วมมือไม่ให้เคลื่อนย้ายปลาหรือยกปลาขึ้นมา เพราะบริเวณดังกล่าวมีลูกปลาที่เพิ่งคลอดอยู่ ประกอบกับปลามีอาการบอบช้ำ ตนต้องรีบดูแลฉีดยาลดแบคทีเรีย และฉีดยาแก้อักเสบเพื่อลดการบอบช้ำให้ปลา ก่อนตัดเชือกและปล่อยปลาไปตามธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าปลาน่าจะไม่ไปทางไหนไกล เนื่องจากห่วงลูกปลาที่เพิ่งคลอด ตนก็ได้แจ้งให้คนตกปลาบริเวณดังกล่าวช่วยดู หากตกได้ปลากระเบนให้รีบปล่อยทันที ซึ่งเท่าที่เห็นตอนนี้มีลูกคลอดออกมา 2 ตัว จากปกติปลาจะคลอดลูกประมาณ 10 ตัว

 

ส่วนนางปวีณา สว่างประทีป และนายมานพ  บุตรจินดา สองสามีภรรยา เจ้าของร้านทองเต็มปี๊บ และเป็นคณะกรรมการอุปถัมภ์ของสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากตนทราบข่าวว่ามีการตกปลากระเบนราหูขนาดใหญ่ได้ ตนจึงได้ให้นายนายกฤษฎา  สว่างประทีป น้องชาย รีบมาดู เพราะส่วนตัวครอบครัวตนนั้นชอบทำบุญและชอบช่วยเหลือคนอื่น ประกอบกันเป็นสัตว์คุ้มครองหายาก ตนไม่อยากให้สูญพันธ์ อยากจะอนุรักษ์ไว้ และได้ข่าวว่ามีคนมาติดต่อขอซื้อไปทำอาหารด้วย ตนสงสารจึงติดต่อขอร่วมทำบุญซื้อปลาตัวดังกล่าวเพื่อนำปล่อยคืนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตรงตามเจตนารมณ์ของคนที่ตกปลาได้ด้วย ที่อยากปล่อยคืน ซึ่งเมื่อปล่อยเสร็จแล้วตนรู้สึกดีใจที่ได้ทำบุญครั้งนี้ ยิ่งมารู้ว่าปลาเพิ่งคลอดลูกมาด้วย ยิ่งสาสารและยิ่งดีใจที่ได้ทำบุญในครั้งนี้

 

นางนวลปรางค์  ชูเทียน อายุ 60 ปี ชาวบ้านในละแวก กล่าวว่า ตนอยู่ที่นี่มา 60 ปี แล้ว ตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบันก็ยังไม่เคยเจอปลากระเบนตัวใหญ่แบบนี้ เคยเห็นเขาตกปลากันได้ก็เป็นปลาทั่วไป และไม่ใหญ่โตขนาดนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับปลาตัวดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ขอให้ทางประมงช่วยยกตัวปลาขึ้นมาให้ดูแต่ได้รับการขอร้องว่าไม่ให้ยกขึ้นมาเนื่องจากปลามีอาการบอบช้ำประกอบกับเพิ่งคลอดลูก