เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่  8 กรกฎาคม 2563  ศูนย์วิทยุ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ศาลาไม้การเปรียญ ภายในวัดช่างทอง ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร.ต.อ.เดชาธร คำมิ่ง พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พระครูอนุกูลศาสนกิจเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายบดินทร์ เกษมศานติ์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พ.อ.อ. สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา นายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริการส่วนตำบลเกาะเรียน พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ประสานรถดับเพลิงจากหน่วยงานเทศบาลและอบต.ใกล้เคียง จำนวนกว่า 20 คันรุดไปที่เกิดเหตุ

 
ในที่เกิดเหตุพบ แสงเพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณศาลาการเปรียญไม้ ทรงไทย ยกใต้ถุนสูง อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รถดับเพลิงช่วยกันฉีดน้ำสกัด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงแสงเพลิงจึงสงบแต่ก็ยังเหลือแต่กลุ่มควันเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบความเสียหายบริเวณศาลาการเปรียญ เป็นศาลาขนาดใหญ่ ข้างบนเป็นไม้สักทั้งหลัง ข้างล่างเป็นปูนเสียหายทั้งหมด ด้านบนศาลาการเปรียญประกอบด้วย หอสวดมนต์ 2 ชั้น กุฎิทรงไทย 2 หลัง

 
นายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริการส่วนตำบลเกาะเรียน มาถึงเป็นตอนแรก กล่าวว่าตอนแรกที่มาเจอเพลิงลุกไหม้รุนแรงมากตอนนี้ ควบคุมเพลิงได้แล้ว ต้องทำการสอบสวนก่อน

ด้าน นายธวัช ไหมเหลือง อายุ 65 ปี ไวยากรณ์ ของวัด เล่าว่าตอนมาถึงไฟรุกไหม้แล้ว และได้ขึ้นไปหาพระครูพิชัยเดชารักษ์ เจ้าอาวาสวัดช่างทอง ได้เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุท่านอยู่ในกุฎิด้านบน ท่านก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้ยินเพียงเสียง บิ้มๆ 2 ครั้ง ออกมาไฟก็รุกไหม้ขึ้นหลังคาไปแล้ว และก็พบหลวงตาย้อย พระลูกวัดซึ่งมีอายุมากแล้ว อยู่ในกุฎิที่ถูกเพลิงไหม้ ยืนเกาะประตูอยู่ไฟก็ไหม้ ต่างก็ดึงพากันออกมาเอาชีวิตรอด ไฟไหม้รวดเร็วประกอบกับลมกรรโชกแรงด้วย

 
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คาดว่าเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามจะทำการสอบสวนพระที่อยู่ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนความเสียหายตอนนี้ยังประเมินค่าไม่ได้ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป