วันอาทิตย์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567 17:25 น.

ภูมิภาค

แปดริ้วยกระดับคุมเข้มโควิด ไม่สวมแมสก์นอกบ้านปรับ 2 หมื่น ติดเชื้อสะสมพุ่ง 259 ราย

วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564, 20.16 น.
วันที่ 26 เม.ย.64 เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุด ซึ่งในวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 8 ราย จากเมื่อวันวาน (25 เม.ย.64) มีผู้ติดเชื้อ 11 ราย เมื่อวันที่ 24 เม.ย.64 มีผู้ติดเชื้อ 4 ราย และในวันที่ 23 เม.ย.64 มีผู้ติดเชื้อ 14 ราย ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ติดเชื้อจากการระบาดรอบแรก 21 รายเสียชีวิต 1 ราย ระลอก 2 จำนวน 28 ราย และรอบล่าสุดจากสถานบันเทิง 210 รายมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ป่วยจากต่างพื้นที่เดินทางเข้ามารักษาตัวในจังหวัด
 
ทำให้มียอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 259 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดยล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ 19/2564 ลงวันที่ 26 เม.ย.64 เกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติมตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ครั้งที่ 22/2564 เมื่อช่วงเช้าของวันนี้
 
“ให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีตลอดเวลาที่ออกนอกเคหะสถาน” โดยหากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งมาตรการในลักษณะนี้ ได้มีในหลายจังหวัดทั่วประเทศเริ่มประกาศบังคับใช้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคมาก่อนหน้าแล้ว เมื่อประมาณ 3 วันก่อน ทั้งที่การระบาดมีความรุนแรงน้อยกว่า จ.ฉะเชิงเทรา เช่น จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน
 
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า จากการรายงานข้อมูลไทม์ไลน์ของศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นยังคงเป็นกลุ่มของผู้ได้รับการถ่ายทอดหรือได้รับการแพร่เชื้อมาจากกลุ่มผู้ติดเชื้อรายเดิมๆ ที่ได้เข้าไปสัมผัสรับเชื้อโดยตรงมาจากสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และร้านอาหารซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของภาคตะวันออก ย่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ก่อนนำมาแพร่สู่คนในพื้นที่
 
โดยพฤติกรรมของการแพร่เชื้อส่วนใหญ่นั้น จะเป็นการรวมกลุ่มกันสังสรรค์หรือมีการประชุมสัมมนาร่วมกัน และเดินทางไปเที่ยวด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการแพร่ระบาดจากคนภายในครอบครัว เช่น จากสามีสู่ภรรยาและบุตร และจากบุตรที่เข้าไปท่องเที่ยวในสถานบันเทิงก่อนนำเชื้อกลับมาแพร่สู่ผู้ปกครองและคนในครอบครัว กลุ่มเพื่อนฝูง รวมถึงการแพร่เชื้อกันในสถานที่จัดงาน การทำบุญประเพณี
 
นอกจากนี้ยังมีการแพร่เชื้อภายในสถานที่ทำงาน เช่น สถานประกอบการย่านนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิติ ใน อ.แปลงยาว และยังมีการเดินทางไปยังในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกด้วย จึงทำให้การแพร่เชื้อกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดยังพบว่ามีชาวต่างชาติซึ่งเป็นผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรมสัญชาติญี่ปุ่นติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ด้วย ในแถบ ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
 
อีกทั้งในการตรวจหาเชื้อของกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นผู้ได้เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยนั้น มีเป็นจำนวนมากที่ตรวจพาเชื้อในระยะแรกไม่พบ จนต้องมีการตรวจซ้ำมากถึง 2-3 ครั้ง จึงพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อในที่สุด โดยที่บางรายนั้นไม่ปรากฎอาการให้เห็นมาก่อน เป็นระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนมีการตรวจพบในภายหลัง
 
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 19.10 น. ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่งทำการเผยแพร่ คำสั่งที่ 20/2564 มาถึงยังผู้สื่อข่าวอีกว่า ทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประกาศใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น โต๊ะสนุ๊กเกอร์ สนามฝึกซ้อมมวย สนามฝึกการต่อสู้ต่างๆ สนามเด็กเล่นสวนสนุก ร้านเกมส์ สระว่ายน้ำ โรงภาพยนตร์ ฟิตเนท สนามกีฬาในอาคาร กวดวิชา อาบอบนวดสมุนไพรสปา สถานรับเลี้ยงเด็กคนชรา สถานจัดเลี้ยง การสักร่างกาย และศูนย์พระเครื่อง 

หน้าแรก » ภูมิภาค