วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10:13 น.

ภูมิภาค

แจ้งปมดราม่าขายลูกพลัม โครงการหลวงดอยแม่สลอง

วันจันทร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 11.51 น.

วันที่ 10 พ.ค.64 จากการณีที่มีข้อความส่งต่อทางโซเชียล ถึงการขอความช่วยเหลือในการกระจายผลลูกพลัมจู่หลีสด หรือเชอรี่ดอย ในพื้นที่ดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยมีข้อความว่า  "สวัสดีค่ะ หนูชื่อ วิวค่ะเป็นเจ้าหน้าที่โครงการหลวงดอยเเม่สลอง จังหวัดเชียงราย หนูขอประสานเข้ามา เกี่ยวกับ ผลลูกพลัมจู่หลีสดขายเข้าโรงงานเเปรรูปไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิท โรงงานหยุดดำเนินการ ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดช่วงเดือน พค- กลางเดือน มิย ประมาณว่า 90-100 ตัน ที่ต้องทิ้ง หากจำหน่ายไม่ได้ ชาวบ้านกำลังหมดทางไป หนูจึงขอความกรุณาจากทุกๆท่าน ช่วยอุดหนุนผลสดลูกพลัมจู่หลีจากชาวบ้านด้วย คนละนิดคนละหน่อยก็ประคับประคองกันไป นะคะ " พร้อมระบุราคาและเลขที่บัญชี และหมายเลขโทรศัพท์ของน้องวิว

 


จากนั้นได้มีข้อความแจ้งเตือนว่า ข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ โดยมีข้อความจากผู้ที่ประสงค์ดีเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงว่า "ขออนุญาต ชี้แจง เกี่ยวกับเรื่อง ข้อเขียนอันนี้ครับ ในฐานะ ที่ผมยังช่วยงานโครงการหลวงอยู่ อันดับแรก ขอชี้แจงว่า โครงการหลวง ไม่มีเจ้าหน้าที่ และไม่มีการส่งเสริม ที่ดอยแม่สลอง คนชื่อวิว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่โครงการหลวงข้อที่ 2 โรงงานโครงการหลวง ไม่เคยหยุดรับซื้อผลผลิต และจำหน่ายผลผลิต  แต่การรับซื้อผลผลิต และจำหน่าย ส่วนใหญ่ จะมาจาก เขตส่งเสริม ที่โครงการหลวงรับผิดชอบ ใน 39 ศูนย์เป็นหลัก บทความนี้ทำให้โครงการหลวงเสียหาย ก็ขอชี้แจงให้ทราบทั่วกันครับ"


ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยได้พบกับ นางสาวพิณทิพย์ แดงไฝ หรือน้อง วิว ซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สลอง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นโครงการในความรับผิดชอบของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานของมูลนิธิโครงการหลวง และขยายผลสำเร็จของโครงการหลวงไปยังพื้นที่สูงอื่น โดยการลงพื้นที่พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันแพ็คลูกพลัมจู่หลี หรือเชอรี่ดอย ใส่กล่องพสดุไปรษณีไทย เพื่อขนใส่รถกระบะ เตรียมส่งให้กับลูกค้า โดยมีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านกำลังช่วยกันทำงานอยู่

 


นางสาวพิณทิพย์ แดงไฝ หรือน้อง วิว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวในโซเชียลเป็นการเจ้าใจผิดเนื่องจากการโพสครั้งแรก ไม่ได้ใส่ชื่อเต็มของโครงการหลวง โดยพิมพ์ตกว่า โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สลอง จึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน หลังจากนั้นก็ได้มีการแก้ไขข้อมูลโดยการให้ติดต่อซื้อลูกพลัมจู่หลี ซึ่งหนูต้องขอกราบขอบคุณสำหรับการอุดหนุนผลิตผลพลัมของเกษตรกรค่ะ และเนื่องจากมี order เข้ามาจำนวนมากหลังจากที่ได้โพสไปในหลายช่องทาง จึงอาจทำให้รับโทรศัพท์ของลูกค้าหลายท่านไม่ทัน ตอนนี้หนูและกลุ่มเกษตรกรกำลังจัดการเคลียร์ order ทั้งหมด และจะขอปรับเปลี่ยนไปให้เกษตรกรเป็นผู้จัดการทั้งหมด โดยท่านสามารถอุดหนุนผลิตผลพลัมของเกษตรกรภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สลอง โดยติดต่อ ผ่านกลุ่มเกษตรกร โดยระบุชื่อ และเบอร์โทรศัพท์  หรือ ผ่านทางกลุ่มงานตลาดและสถาบันเกษตรกร ของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง โดยติดต่อและประสานงาน กับ  คุณวรุมดี ภาคสินธ์ เบอร์โทรติดต่อ 081-8845780  คุณไฉไล กรองทอง เบอร์โทรติดต่อ 084-616255 เพื่อจะได้จัดระบบในการจัดส่งให้ถึงมือลูกค้า

 


"ซึ่งการส่งข้อความในครั้งแรกเป็นการส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มคณะที่เรียนมาจบมา โดยให้รุ่นพี่รุ่นน้องช่วยกระจายสินค้า แต่ก็ได้มีการส่งต่อข้อความไปไหลายกลุ่มจึงได้เกิดความเข้าใจกคลาดเคลื่อนขึ้นอย่างไรก็ตามก็ได้มีการแก้ไข และมีบางรายที่โอนเงินเข้ามาสั่งซื้อสินค้าแต่ได้สั่งไปจากลุ่มไลน์อื่นทำให้ไม่ทราบว่ายอดดังกล่าวเป็นของท่านใด จึงขอความกรุณาหากว่ายังไม่ได้รับการติดต่อหรือได้รับสินค้า ขอให้ติดต่อกับทางผู้ประสานงานของโครงการเพื่อเร่งส่งสินค้าให้" น้องวิว กล่าว

 


สำหรับ ลูกพลัมจู่หลี หรือเชอรี่ดอยในพื้นที่ดอยแม่สลอง เป็นพื้นที่ปลูกเพื่อให้ร่มใบแก่ต้นกาแฟ ซึ่งในพื้นที่ดอยแม่สลองมีประมาณ 500 ไร่ ซึ่งในปีนี้มีผลผลิตมากกว่าทุกปีเนื่องจากสภาพอากาศและฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ผลิตออกมาจำนวนมาก ประกอบกับช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มีลูกค้ามารับซื้อถึงที่ และการส่งออกไปยากลำบากเพราะไม่มีออเดอร์มาเหมือนปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลสุกและร่วงลงดิ,-น ทำให้ดินเป็นกรด และส่งผลกระทบต่อต้นกาแฟ ซึ่งหลายแปลงผลได้ร่วงลงดินและทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่าเนื่องจากระบายผลผลิตไม่ทัน โดยในแต่ละปี เกษตรกรจะมีรายได้จากการเก็บผลพลัมจู่หลี ได้ปีละประมาณ  80,000- 100,000 บาท โดยอยู่ที่ราคากิโลละ 6-8 บาท แล้วแต่ขนาด ซึ่งในปีนี้มีผลิตอยู่ในพื้นที่ดอยแม่สลองอีกประมาณ 500 ตัน ซึ่งยังคงต้องเร่งระบาดผลผลิตดังกล่าว ซึ่งก็ได้เร่งส่งออก โดยได้ส่งสินค้าทางไปรษณีไทยให้กับลูกค้าที่สั่งออเดอร์มาทางไลน์ และติดต่อมาทางเจ้าหน้าที่

หน้าแรก » ภูมิภาค