วันที่ 29 พ.ค.64 นายสุเทพ อู่อั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอไทรน้อย เจ้าหน้าที่ อบต.ราษฎรนิยม เจ้าหน้าที่รพ.สต.คลองลากฆ้อน  แพทย์จากรพ.ไทรน้อย เดินทางไปที่บ้านเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ )อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลราษฎรนิยม อ.ไทรน้อยจ.นนทบุรี หลังได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ว่าลูกสาวมีนิสัยชอบแอบสูดดมน้ำมันเบนซิน มานานเกือบ 2 ปี แล้วอยากให้เจ้าหน้าที่พาตัวไปรักษา

 

ที่บ้านพบว่าเด็กหญิงเอ พักอาศัยอยู่กับปู่และย่าที่มีอายุมากแล้ว ส่วนพ่ออายุ 41 ปีที่เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้เพียง 6 เดือน จากการสอบถามพ่อของเด็กหญิงเอ เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ตนได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นของลูกสาวว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นเด็กเรียนเก่ง ร่าเริง จนได้รับทุนการศึกษาของโรงเรียน กลับกลายมาเป็นเด็กเหม่อลอย เซื่องซึม นอกจากนี้ยังแอบขโมยเงินของครูที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง จึงคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกสาวก็พบว่าเวลาอยู่ที่บ้านลูกสาวก็มักจะเข้าห้องน้ำเป็นเวลานานๆ และจะนำขวดน้ำพลาสติกใส่น้ำมันเบนซินเข้าไปด้วย หลังลูกสาวออกจากห้องน้ำมาก็จะมีอาการเบลอๆหัวเราะคนเดียว เมื่อสอบถามลูกสาวก็ยอมรับว่าได้แอบขโมยน้ำมันเบนซินจากรถจยย.ของตน ถ่ายใส่ขวดน้ำพลาสติก แล้วนำไปสูดดม จากการสอบถามลูกสาวบอกว่าสูดดมมานานแล้วเกือบ 2 ปี จนเส้นผมของลูกสาวเริ่มเปลี่ยนจากสีดำไปเป็นสีขาว ตนจึงสั่งห้ามลูกสาวทำแบบนี้อีก แต่ลูกสาวก็ไม่เชื่อฟังวันไหนตนเผลอก็จะแอบนำน้ำมันเบนซินมาสูดดมอยู่ตลอด ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจึงได้ตัดสินใจร้องไปทางหน่วยงานในอำเภอไทรน้อย ให้มาช่วยเหลือนำลูกสาวเข้าไปทำการรักษาตัวที่รพ.เพื่อจะได้หายจากพฤติกรรมแบบนี้

 

นางชมษร อมลวรรณ ผอ.รพ.สต.คลองลากฆ้อน กล่าวว่า จากการพูดคุยกับเด็กหญิงเอ พบว่าน้องสูดดมน้ำมันเบนซินมานานเกือบ 2 ปี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับเด็กอย่างน้อง เพราะในน้ำมันเบนซินมีสารที่เป็นพิษต่อร่างกายอยู่มากการที่น้องสูดดมเข้าไปเป็นระยะเวลานานๆก็จะทำให้ทั้งระบบประสาท สายตา ได้รับสารพิษเข้าไปจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ซึ่งหลังจากนี้ทางเราจะพาน้องไปรักษาตัวที่รพ.จนกว่าจะหายและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนกับเด็กคนอื่นทั่วไป