วันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 21:01 น.

ภูมิภาค

สนธยา พาเข้าวัด ฟังธรรม กับเจ้าอาสาววัดป่าธรรมานุสรณ์ เทศนา คาถา คนดี

วันอาทิตย์ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 13.51 น.
สนธยา พาเข้าวัด ฟังธรรม ได้มีโอกาสเดินทางไปพื้นที่อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นอำเภอชายแดน ติดแม่น้ำโขง ตรงข้าม ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เพื่อทำบุญ ทำทาน สร้างกุศล ฟังธรรมเทศนา กับ พระครูสารธรรมคุณ   เจ้าอาวาสวัดป่ายักษ์คุธรรมานุสรณ์  ที่วัดป่ายักษ์คุธรรมานุสสรณ์ ต.ยักษ์คุ อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ วัดนี้มีพระสงฆ์อยู่ 9 รูป สามเณรและแม่ชีไม่มี มรรคนายก 1 คน เป็นวัดสังกัดธรรมยุตินิกาย บนพื้นที่ 27 ไร่ เป็นที่ตั้งอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอระฆัง ฯลฯ 
 
ส่วนที่โดดเด่น ที่ญาติโยมเดินทางเข้ามาวัดเป็นประจำก็คือ พระธาตุ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งมีความสูง 19 เมตร ฐานกว้าง 10 เมตร ซึ่งญาติโยม พุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและ สปป.ลาวนับถือศรัทธามาก จึงต้องเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพรไม่ได้ขาด โดยเฉพาะในวันเพ็ญเดือน 3 และวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี ถือว่าเป็นงานประเพณี งานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งชาว สปป.ลาวจะข้ามแม่น้ำโขง เข้ามาเที่ยวงานและนมัสการทำบุญขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขเป็นประจำทุกปี  
 
นอกจากนี้ทางวัดป่ายักษ์คุธรรมานุสรณ์ ยังกำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตอนุรักษ์ป่าไม้ ให้คงอยู่สภาพเดิม พร้อมกับปลูกป่าเพิ่มเติม เช่น ต้นพะยูง, ยางนา,มะค่า,สักทองและไม้มงคลอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไม้หายากและยังเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ผู้สนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอีกด้วย  
 
พระครูสารธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดป่ายักษ์คุธรรมานุสรณ์ เทศนาว่า ญาติโยมพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ถือศีล 5 ข้อให้ได้ และปฏิบัติตนตามศีล 5 ข้อให้ได้ ซึ่งศีล 5 ข้อ ได้แก่ 1.ห้ามฆ่าสัตว์ 2.ห้ามลักทรัพย์ 3.ห้ามทำผิดในกาม 4.ห้ามดื่มสุราและ 5.ห้ามพูดเท็จ ถ้าทุกคนทำได้ สังคมก็จะสงบสุข ต่างคนก็ต่างทำมาหากิน และอยู่กันอย่างมีความสุข ส่วนที่วุ่นวายไม่สงบอยู่ทุกวันนี้ เพราะ คนเราขาดศีล 5 และเห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม มีความโลภ หลงยศ หลงลาภ ไม่คิดจะทำความดี เพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศชาติ กอบโกยอย่างเดียว  เกียรติยศ ชื่อเสียง เงิน ทอง ตายไปแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้ และเวลาตาย เขาก็เอาเงินใส่ปากให้เหรียญเดียว อยู่ในปากไม่นาน พอเผาไหม้ร่างกายหมดแล้ว กลายเป็นเถ้าถ่าน ก็ยังเขี่ยหาเงินเอาคืนเป็นที่ระลึก คิดดู เงินใส่ปากเขายังเอาคืน ความดี นี่คือสิ่งยั่งยืน คนเราถ้าสร้างคุณงามความดีแก่สังคมไว้มาก ตายไปแล้ว คนที่อยู่ก็ยังระลึกถึงและกล่าวถึงตลอดเวลาในคุณงามความดีที่เคยสร้างไว้ ยิ่งทุกวันนี้ โรคภัยไข้เจ็บเยอะมาก ทำให้คนอายุสั้นลง จำไว้เมื่อมีชีวิตอยู่จงทำความดี ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศลให้มากๆ จิตใจจะได้สบายและ ชีวิตยืนยาว 
 
และขอฝาก มงคล 9 ประการ ให้ไปปฏิบัติ ดังนี้ 1. ซื่อตรง บุคคลใด ถ้าขาดความซื่อตรง ก็จะเกิดความเสื่อมโทรมเสียหาย เกิดความระแวงไม่ไว้วางใจ ขาดความเชื่อถือ เกิดความโกรธเคือง อาฆาตแค้น ดูถูกดูหมิ่นกัน กฎธรรมชาติมีอยู่ว่า บุคคลใดซื่อตรงเป็นบุคคลที่น่าคบค้าสมาคมมีเสน่ห์ใครๆก็ชอบคบค้าสมาคมกับคนซื่อตรง ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน ถ้าเรามีนักการเมืองคดในข้องอในกระดูก โกงในสันดาน บ้านเมืองของเราก็มีแต่พังกับพังเท่านั้น เพราะฉะนั้น ขอให้ถือความซื่อตรงเป็นหลักปฏิบัติสำคัญที่สุดของชีวิต 
 
2.สะอาด เพราะความสะอาดทำให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เชื้อโรคเกิดจากความสกปรก เมื่อเรามีความสะอาดเชื้อโรคเกิดขึ้นไม่ได้ เราก็มีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งกว่านั้น ความสะอาดยังส่อแสดงให้เห็นถึงชีวิตจิตใจ การศึกษา และบุคลิกภาพ ตามคำโบราณที่ว่า ดูวัดให้ดูฐาน(ส้วม) ดูบ้านให้ดูครัว วัดใดส้วมสะอาด แสดงว่า วัดนั้นพระขยัน และบ้านใดครัวสะอาด แสดงว่า แม่ครัวหรือลูกสาวบ้านนั้นขยัน เพราะฉะนั้น ขอให้ถือความสะอาดเป็นหลักปฏิบัติสำคัญที่สุดของชีวิต 
 
3.ขยัน เพราะความขยันเป็นเครื่องผลักดันชีวิตให้เจริญก้าวหน้าไปสู่ความมั่งคั่ง บรรดาบุคคลสำคัญของโลก ได้ประสบความรุ่งโรจน์ เพราะอาศัยความขยันช่วยผลักดันชีวิต คือ ขยันศึกษา,ขยันคิด,ขยันพูด,ขยันทำและขยันหา คือ หาความรู้ หาความชำนาญ หาทางก้าวหน้า หาทรัพย์สินเงินทอง หามิตรสหาย หาพระสงฆ์องค์เจ้า หานักปราชญ์ผู้รู้ดี เป็นต้น 
 
4.ใช่จ่ายพอสมควรแก่ฐานะ ถ้าเราใช้จ่ายเกินฐานะเกินรายได้ ก็จะมีแต่ความทรุดโทรมลงและพินาศล่มจม ในที่สุดก็ดำรงชีวิตไม่ได้ มีคนจำนวนมากที่ต้องลำบากยากจนและเดือดร้อน เพราะใช้จ่ายเกินฐานะ จงประหยัดเพื่อใช้จ่าย แล้วใช้จ่ายเพื่อประหยัด จะมั่งมีเพราะประหยัด จะอัตคัดเพราะฟุ่มเฟือย 
 
5.งดเว้นสิ่งให้โทษคือ 1.สุราเมรัย เครื่องดองของเมา(งดเว้นกินกับยา) 2.ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน ยาบ้า ยาอี เป็นต้น 3.การพนันขันต่อต่างๆ 4.แหล่งอบายมุข ตลอดจนสถานเริงรมย์ ที่ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นดีที่สุด 
 
6.ไม่ล่วงเกินผู้อื่นก่อน เพราะเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ทะเลาะวิวาท ตีกัน เข่นฆ่ากันนั้น เนื่องมาจากการล่วงเกินกันก่อนเป็นมูลเหตุ ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่ล่วงเกินกัน หัดยอมเป็น ให้อภัย คิดว่า โลกทั้งผองพี่น้องกัน รู้รักสามัคคี  
 
7.งดติดต่อคบค้าสมาคมกับคนไม่ดี ถ้าเราติดต่อกับคนไม่ดีก็จะมีแต่เรื่องยุ่ง ผิดหวัง เดือดร้อน เสียหาย พินาศ อาจจะถึงแก่ชีวิตก็ได้ ไร้ประโยชน์ เสียเวลาด้วยประการทั้งปวง จึงควรดูคนดี แบบ 5 ดี คือ คิดดี ทำดี พูดดี คบคนดี และไปสู่สถานที่ดี  
 
8.กตัญญู คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง ผู้มีพระคุณแก่เรา สรุปได้มี 5 ประการ เรียงลำดับจากสูงดังนี้ 1.พระพุทธ- พระธรรม –พระสงฆ์ ผู้แนะนำสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในความดีและประพฤติตนเป็นตัวอย่างและที่พึ่งสูงสุด 2.ชาติ กษัตริย์และรัฐธรรมนูญ ผู้ให้สิทธิคุ้มครองความยุติธรรม ความมีหลักฐาน ถิ่นที่อยู่อาศัย 3.บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูรักษาให้ความสุขความเจริญและหลักฐานของชีวิต 4.ครูบาอาจารย์ ผู้สั่งสอนศิลปะวิทยาการทั้งหลายให้ความเจริญรุ่งเรืองและป้องกันในทิศทั้งหลาย 5.ญาติพี่น้อง มิตรสหาย เจ้านายผู้บังคับบัญชาเหนือตน ผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดู สนับสนุน ส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรือง 
 
ผู้มีพระคุณทั้ง 5 ประการที่กล่าวมานี้ บุคคลผู้เจริญแล้วทั้งหลาย ต้องรู้จักบุญคุณและหาทางสนองตอบแทนบุญคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดีที่โลกต้องการบุคคลประเภทนี้ ดังคำที่ว่า คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ เทวดาฟ้าดินย่อมคุ้มครองรักษาเสมอ 
 
และ 9. รู้จักหน้าที่ ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด คนเรามีหน้าที่แตกต่างกัน ตามเพศ วัย และการทำงาน ใครจะอยู่ในหน้าที่อะไรก็ตาม ก็ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เต็มศักยภาพความรู้ ความสามารถ โดยไม่มุ่งผลตอบแทนเกินไป ให้ทำหน้าที่ด้วยความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่ง ที่เรียกว่า งานคือชีวิต ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขขณะทำงาน แต่คนส่วนมาก มีแต่ความอยากได้แต่ไม่อยากทำ อยากรวย อยากสบาย แต่ไม่อยากทำ อยากได้ดีแต่ไม่ยอมสะสมความดี เป็นต้น 
 
“ทั้งหลายทั้งมวล ที่เทศนาให้ฟัง คือ คาถา ของ คนดี” 

หน้าแรก » ภูมิภาค