วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:52 น.

ภูมิภาค

ปาฏิหาริย์มีจริง! "น้องบีม" เหยื่อพ่วงมรณะฟื้นจากเจ้าชายนิทรา รับรู้พร้อมสู้เพื่อแม่

วันพฤหัสบดี ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 14.41 น.
วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 นางสาวหนูผิ่น แสงสีดาอายุ 51 ปี ชาว ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี มารดาของนายยศพล ฮ่มซ้าย หรือน้องบีม อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ผู้รอดชีวิตจากเหยื่อรถพ่วงมรณะหลับในชนรถจักรยานยนต์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคั่งสมองและขาหักทั้ง 2 ข้าง ได้ออกมาเปิดเผยอาการล่าสุดของลูกชาย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลสกลนคร ว่า น้องบีมหลังถูกนำส่งตัวมาจากโรงพยาบาลต้นทาง คือ โรงพยาบาลนครพนม ตั้งแต่ช่วงเย็นวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 แรกๆอาการยังวิกฤต มีทั้งอาการเลือดคั่งในสมองไม่รู้สึกตัว อีกทั้งยังต้องถูกตัดขาซ้ายเหนือเข่าถึง 2 รอบเพราะแผลติดเชื้อ ส่วนขาขวากระดูกหัก ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดรักษาได้  ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์รวมถึงพยาบาล ที่ดูแลรักษาลูกชายอย่างเต็มที่
 
น.ส.หนูผิ่นกล่าวต่อว่าอาการของน้องบีมดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ตอนนี้อาการเลือดคั่งในสมองพ้นวิกฤต น้องบีมรู้สึกตัวแล้วหลังเป็นเจ้าชายนิทรานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยตลอดเวลาที่ลูกยังไม่รู้สึกตัวแม่บอกเสมอว่า “สู้เพื่อแม่นะลูก ถึงแม้พิการตัดขาไม่เป็นไร ขอเพียงมีชีวิตรอดเพื่อแม่”  โดยเจ้าตัวรับรู้และยืนยันขอสู้เพื่อแม่ ส่วนการรักษาขั้นตอนต่อไปทางแพทย์แจ้งว่า จะทำการผ่าตัดเสริมเหล็กที่ขาขวา ทำให้แม่รู้สึกมีกำลังใจ ขอเพียงลูกรอดชีวิต ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้การดูแลช่วยเหลือ นอกจากนี้ในส่วนของบริษัทเจ้าของรถบรรทุกพ่วง ได้มาติดต่อเยียวยาตามกฎหมาย รวมถึงในส่วนของโรงพยาบาลนครพนมที่เป็นโรงพยาบาลต้นทาง ซึ่งตนยังติดใจในการรักษาล่าช้า ทิ้งเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง ก่อนที่จะส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสกลนคร โดยเบื้องต้นทางผู้บริหารโรงพยาบาลนครพนม ได้ชี้แจงถึงสาเหตุในการส่งตัวล่าช้าแล้วก็ตาม พร้อมจะเยียวยากับปัญหาที่เกิดขึ้น
 
ทั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณ ทุกภาคส่วนที่ให้การดูแลช่วยเหลือ สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาผู้ป่วย ไม่อยากให้เกิดปัญหาคล้ายกรณีลูกชายของตน อยากให้นำไปเป็นแนวทางการแก้ไข อย่าให้เกิดปัญหาซ้ำกับผู้ป่วยรายอื่นอีก เพราะตนรับรู้ถึงสภาพจิตใจคนที่ได้รับผลกระทบ บางครั้งเวลามันหมายถึงชีวิต ส่วนการเจรจาเยียวยาดูแลตามขั้นตอน ตนยังไม่พร้อมสรุป เพราะขอดูอาการลูกชาย จนกว่าจะปลอดภัย เนื่องจากน้องบีมพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง
 
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เวลา 07.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม ใกล้จุดกลับรถบ้านหนองเซา ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม พบรถบรรทุกกึ่งพ่วงคอนเทนเนอร์ขนาด 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 73-5525 สมุทรปราการ ทะเบียนลูกพ่วง 73-6241 สมุทรปราการ  มีนายกิตติศักดิ์ วงศืภูเขียว อายุ 33 ปี ชาว อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เป็นคนขับ ส่วนเหยื่อรถพ่วงมรณะที่เสียชีวิตชื่อนายธนาวุฒิ ยะสา หรือน้องเอ อายุ 20 ปี ชาวบ้านกุดสะกอย หมู่ 7 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และส่วนคนซ้อนคือนายยศพล ฮ่มซ้าย หรือน้องบีม อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษาคณะเดียวกัน
 
หลังเกิดเหตุน้องบีมถูกเร่งนำส่ง รพ.นครพม ซึ่งศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคั่งในสมอง และขาหักทั้งสองข้าง แต่เนื่องจากไม่มีแพทย์เฉพาะทาง จึงต้องนำผู้ป่วยส่งต่อ รพ.สกลนคร แต่แพทย์ต้องประเมินอาการผู้บาดเจ็บว่าจะไม่มีอาการที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างทาง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การส่งตัวล่าช้า

หน้าแรก » ภูมิภาค