วันที่ 29 ตุลาคม 2565 พระครูพิพัฒน์สังฆคุณ หรือเจ้าคุณนันท์ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และเจ้าอาวาสวัดสะพานศรี บ้านพาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร นำทีมช่างฝีมือซึ่งเป็นวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ เร่งสร้างปราสาทผึ้งให้งดงามวิจิตรตระการตา เพื่ออวดสายตาต่อนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ถวายเป็นพุทธบูชาในงานเทศกาลออกพรรษาแห่ปราสาทผึ้ง ประจำปี 2565 โดยขณะนี้เหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน ปราสาทผึ้งหลังนี้ก็จะถูกนำไปตั้งโชว์บริเวณสนามมิ่งเมือง ในวันที่ 6-9 ตุลาคม และจะเข้าสู่ขบวนแห่ ในเย็นวันที่ 9 ตุลาคม 2565 โดยในวันนี้ ช่างฝีมือจากคุ้มวัดสะพานศรี ต่างก้มหน้าก้มตา เร่งเทขี้ผึ้งลงบนแบบพิมพ์ รูปหล่อ แกะสลัก ลวดลายต่างๆอย่างขะมักเข้มน เพื่อนำไปประดับลงบนโครงสร้างปราสาทผึ้ง ที่ทำขึ้นจากไม้อัด ปีนี้วัดสะพานศรี เริ่มทำปราสาทผึ้งขึ้นด้วยโครงสร้างใหม่ ขนาดความยาว 11 เมตร สูง 5 เมตร ทรงจตุรมุข 5 ยอด มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ โดยสืบทอดพระพุทธศาสนาไปประดับบนตัวประสาทผึ้ง สื่อถึงเรื่องราวพุทธประวัติ 

 

พระครูพิพัฒน์สังฆคุณ กล่าวว่า ฐานล่างเป็นคำขวัญของจังหวัดสกลนคร  อันได้แก่พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุกซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธรรม โดยลวดลายและการออกแบยบ นับว่าเป็นความชำนาญของช่างฝีมือคนรุ่นใหม่ ที่กำลังสานต่อได้ช่วยกันสร้างปราสาทผึ้งให้มีความงดงามวิจิตรตระการตา เตรียมนำไปร่วมขบวนแห่อวดสายตานักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติในงานประเพณีออกพรรษาแห่ปราสาทผึ้งของจังหวัดสกลนคร ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-10 ตุลาคม 2565 ณ สนามมิ่งเมือง และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร โดยจะเคลื่อนขบวนแห่วิถีชีวิต 6 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ประกอบแสงสีเสียง ผ่านถนนสุขเกษมไปยังวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหารเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งทางวัดได้สืบสานการสร้างปราสาทผึ้งมากว่า 30 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่การแห่ปราสาทผึ้งเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทำจากต้นกล้วยไม้ไผ่ทรงสิมโบราณและประดับด้วยดอกผึ้งเท่านั้น ชาวคุ้มต่าง ๆ จึงได้พากันจัดทำมาถวาย จนกลายเป็นปราสาทผึ้งประยุกต์ ควรค่าแก่การสืบสานงานประเพณีอันดีงามนี้ไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้สืบสานต่อไป