มูลนิธิปวีณาฯ ประสานงานช่วยเหลือ 5 สาวไทยที่ถูกหลอกไปขายประเวณี ในเขตปกครองพิเศษ ชายแดนเมียนมา-จีน เผย ถูกบังคับขายประเวณี ไม่ยอมถูกทำร้ายร่างกาย ขณะทำงานถูกบังคับให้เสพยาเสพติด  

 
เวลา 14.00 น.วันที่ 27พ.ย.65 ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยตัวแทนจาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย รวมทั้งฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันรับตัวหญิงไทย 3 ใน 5 คนที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษของว้าแดง ชายแดนเมียนมา-จีน

นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า หญิงไทยทั้ง 3 คนได้ถูกแก๊งค์ค้ามนุษย์หลอกว่า สามารถพาไปทำงานในสถานบริการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเสนอรายได้สูง หลังหลงเชื่อได้มีกลุ่มขบวนการพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ เมื่อเข้าไปในเขตเมียนมาแล้วจึงเดินทางต่อไปที่เมืองล็อกกิ่ง ชายแดนเมียนมา-จีน และถูกบังคับให้คาประเวณ หากไม่ยินยอมจะถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งระหว่างการทำงานยังถูกบังคับให้เสพยาเสพติดด้วย หลังทนไม่ไหวได้ติดต่อขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ มูลนิธิฯจึงได้ประสานกงศุลไทยในเมียนมา คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานกับทหารเมียนมาเพื่อให้ความช่วยเหลือจนสำเร็จ ส่วนหญิงไทยอีก 2 คน ตอนนี้ทหารเมียนมาได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว และจะเดินทางกลับไทยในรอบต่อไป

พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ฝากเตือนถึงสาวไทยที่อยากจะไปทำงาในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ขอให้ดำเนินการตามช่องทางที่ถูกต้องตามกฏหมาย ผ่านกรมแรงงาน ที่ผ่านมายังมีคนไทยจำนวนหนึ่งไม่ตระหนัก ยังหลงไปเชื่อคำหลอกลวงที่นำตัวเลขรายได้มาล่อใจ ต้องคิดให้ดีว่าต้องทำงานอะไรถึงจะมีรายได้มากถึงขนาดนั้น ยิ่งช่วงนี้เมียนมายังปิดประเทศ การเข้าไปในเมียนมาต้องผ่านช่องทางธรรมชาติซึ่งมีความเสี่ยงสูง และยิ่งไปอยู่ในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อย ความช่วยเหลือจากรัฐไทยยิ่งเข้าไปถึงลำบาก จึงไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก