จากกรณีที่นายจำลอง ขำสา ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี เขต 7 สังกัดพรรคเพื่อไทย มีคุณสมบัติไม่ครบเนื่องจากไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง เขต 3 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ทำให้ขาดคุณสมบัติในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี ทำให้ทางพรรคเพื่อไทยต้องเร่งหาตัวผู้สมัครคนใหม่มาลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งในเขต 7 แทน ซึ่งต่อมาทางพรรคเพื่อไทย ได้เร่งจัดทำไพรมารีโหวตผู้สมัครในเขตดังกล่าวจนได้ตัวนายภูดิศ นนทพิมลชัย อายุ 48 ปี นักธุรกิจซื้อขายที่ดิน เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. นนทบุรี เขต 7 แทนในโค้งสุดท้ายก่อนหมดเขตวันรับสมัครเลือกตั้งในวันนี้

 

วันที่ 7 เม.ย.66 ที่ศูนย์โอทอป จ.นนทบุรี ถนนราชพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. นายภูดิศ นนทพิมลชัย อายุ 48 ปี ได้เดินทางเข้ายื่นเอกสารลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี เขต 7  อย่างเป็นทางการ โดยมีนายจำลอง ขำสา อดีตผู้สมัคร สส.นนทบุรี เขต 7 พรรคเพื่อไทย ที่พลาดลงรับสมัครเนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบเดินทางมาใก้กำลังใจนายภูดิศ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรีของพรรคเพื่อไทยทุกเขตเดินทางมาให้กำลังนายภูดิสผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 คนใหม่อีกด้วย

 

โดยนายจำลอง ขำสา อดีตผู้สมัคร สส.นนทบุรี เขต 7 ที่พลาดท่า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดนนทบุรีมานานหลายปี ซึ่งเป็นทั้ง สจ. เป็นประธานสภา ส.อบจ.นนทบุรี และรองนายก อบจ.นนทบุรีมาหมดแล้ว ตนไม่มีเจตนาหรือตั้งใจทำให้ตัวเองเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ แต่เหตุที่ทำให้ตนเองไม่ได้ไปสิทธิ์เลือกตั้งซ่อมสท.เทศบาลเมืองบางบัวทองเขต 3 นั้น เป็นเพราะก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งได้เพียง 1 วัน ตนได้เดินทางไปดูหน่วยเลือกตั้งซึ่งปกติจะตั้งจุดเลือกตั้งอยู่ที่หน้าหมู่บ้านของตนแล้ว แต่ปรากฎว่าไม่มี ทำให้ตนเข้าผิดว่าไม่มีการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ของตนและอาจจะย้ายไปเป็นการเลือกตั้งในพื้นที่เขต 2 แทน เพราะในตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เลือดตั้งในเขตอยู่บวกกับสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด ทำให้ตนไม่ได้รับแจ้งหนังสือให้เดินทางออกไปใช้สิทธิ จนกระทั่งหลังเกิดเรื่องตนเพิ่งมาทราบว่า ในวันดังกล่าวมีการเลือกตั้งซ่อมจริง แต่หน่วยหรือจุดเลือกตั้งได้ถูกเปลี่ยนย้ายสถานที่ออกไปเป็นที่อื่นแทน

 

นายจำลอง กล่าวอีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ต้องน้อมรับไปตามกฎกติกาที่กำหนดไว้ซึ่งตนได้พลาดพลั้งไปแล้ว ตนขอโทษไปยังหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรค ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และประชาชนที่ให้การสนับสนุนตนกับพรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งหลังจากนี้แม้ว่าตนจะขาดคุณสมบัติหมดสิทธิลงสมัครในนามพรรคในเลือกตั้งที่ 7 นนทบุรีไปแล้ว แต่ตนก็พร้อมที่จะเดินหน้าลงพื้นที่ช่วยนายภูดิศ ผู้สมัครคนใหม่ของพรรคหาเสียงในพื้นที่อย่างเต็มที่ต่อไป เพราะถึงแม้ตนจะไม่ได้ลงรับสมัคร แต่นายภูดิศก็คือตัวแทนของตน คือตัวแทนของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน

 

ทางนายภูดิศ นนทพิมลชัย ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 7 พรรคเพื่อไทย คนสุดท้าย กล่าวว่า การที่ตนได้รับโอกาสจากทางพรรคเพื่อไทยเข้ามาทำหน้าที่ต่อในตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องส้มหล่น เพราะตนก็เป็นนักการเมืองในที่นั้นมาก่อน เมื่อได้รับโอกาสจากทางพรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นนทบุรี ขต 7 แทนนายจำลอง ตนก็ขอสู้เต็มที่ให้สมกับที่ทางพรรคไว้ใจและให้โอกาสตน ถือเป็นความภูมิใจที่ตนได้รับมาจากพรรค หลังจากนี้ตนพร้อมกับนายจำลองจะช่วยกันลงพื้นที่หาคะแนนเสียงอย่างต่อเนื่อง

 

ทางด้าน ร.ต.อ.หญิง วฤนธร ตั้งคฤษณกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนนทบุรีเปิดเผยว่า ทาง กกต.จังหวัดนนทบุรี ขอชี้แจงว่า เรื่องที่ตัวผู้สมัครพบว่าขาดคุณสมบัตินั้น ไม่ได้พบเพราะทางกกต.จังหวัดหรือ กกต.เขต เป็นผู้ตรวจพบ แต่เป็นเพราะทางผู้สมัครเอง เกิดข้อสงสัยในบางเรื่องจึงได้ติดต่อมาให้ทางกกต.เขตช่วยตรวจสอบคุณสมบัติให้ จนกระทั่งทาง กกต.เขตตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติจริง ซึ่งตัวผู้สมัครก็ต้องทำหนังสือไปให้ทางพรรคหรือหัวหน้าพรรคเป็นผู้ถอดถอนชื่อผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติออกแล้วเปลี่ยนผู้สมัครที่มีคุณสมบัติมายื่นลงสมัครแทน ซึ่งตามกฎหมายใหม่ผู้ที่ขาดคุณสมบัติยังมีสิทธิมายื่นถอนตัวเองออกก่อนถึงวันปิดรับสมัครเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ทำให้หมายเลขประจำตัวของผู้สมัครที่มาลงรับสมัครแทน ยังคงเป็นหมายเลขเดิมกับที่ผู้สมัครคนเก่าถอดตัวออกไป