วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:27 น.

ภูมิภาค

สาวงามผู้ไทเรณูร่วมรำบวงสรวงถวายองค์พญานาค โชว์เอกลักษณ์ประจำชนเผ่าส่งเสริม-กระตุ้นเศรษฐกิจ

วันอังคาร ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 17.05 น.

เข้าสู่วันที่ห้าของงานสมโภชพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม รวม 7 วัน 7 คืนยังคงคึกคักไปด้วยประชาชนทั้งชาวไทย ชาวลาว และนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ที่ยังคงเดินทางมาทำบุญกราบไหว้ขอพร องค์นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ถือเป็นที่ประดิษฐานพญานาคศักดิ์สิทธิ์ โดยตั้งตระหง่านมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อเกี่ยวต่อเรื่องพญานาคของชาวไทยและชาวลาว ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อีกทั้งยังต้องการยกระดับ แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าจังหวัดชายแดน จึงได้มีการจัดงานสมโภชและพิธีบวงสรวงขึ้นทุกวันที่ 7 เดือน 7  ของทุกปี

 


ในทุกวันระหว่างจัดงาน จะมีการจัดรำบวงสรวงของนางรำจาก 9 ชนเผ่าหรือ 9 ชาติพันธุ์ ที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารนานนับร้อยปี ซึ่งแต่ละชนเผ่าต่างมีประเพณี วัฒนธรรมเป็นอัตลักษณ์ และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อความศรัทธาต่อพญานาคผู้ปกปักษ์รักษาในลุ่มแม่น้ำโขง ได้พร้อมใจกันแต่งชุดประจำเผ่า โชว์ความโดดเด่นของวัฒนธรรมประเพณีตลอดทั้ง 7 วัน โดยผลัดเปลี่ยนมารำบวงสรวงตามพระธาตุประจำวันเกิด ที่ประดิษฐานในพื้นที่ชนเผ่า

 

 

ซึ่งวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นวันจันทร์ พระธาตุประจำวันเกิดคือ พระธาตุเรณูนคร อ.เรณูนคร เป็นอำเภอที่มีชนเผ่าผู้ไทหรือผู้ไทยอยู่หนาแน่น ถือเป็น 1 ใน 9 ชนเผ่า ที่ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมประเพณีที่โดดเด่น มีชุดพื้นเมือง รวมถึงภาษาเป็นของตัวเอง มีประวัติบันทึกไว้ว่ามีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทย และอาณาจักรล้านช้าง มีการเคลื่อนย้ายอยพยพข้ามแม่น้ำโขง ปักหลักอยู่ในพื้นที่ อ.เรณูนครเป็นส่วนใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ชนเผ่าภูไทได้รับคำร่ำลือว่าเป็นชาติพันธุ์มีสาวสวยประทับใจแก่ผู้พบเห็น เพราะสาวผู้ไทยจะมีผิวพรรณงาม อีกทั้งมีการสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีมาจากอดีตถึงปัจจุบัน จึงกลายเป็นเสน่ห์ที่ถูกนำไปอยู่ในบทเพลงดังคือหนาวลมที่เรณู และเป็นอำเภอท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นครพนม ในเวลาต่อมา

 

 

โดยในงานบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช กลุ่มชาติพันธุ์ภูไทนับเป็น 1 ใน 9 ชนเผ่า ที่ได้ร่วมรำบวงสรวง และโชว์การแสดงฟ้อนรำผู้ไทย ถือเป็นการรำที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่สืบสานมาจากบรรพบุรุษ รวมถึงสอดแทรกวัฒนธรรมประเพณีของชนเผ่าอยู่ในการละเล่น โดยการร่ายรำจะจับคู่หนุ่มสาว คล้ายการรำเกี้ยวสาว โดยฝ่ายชายจะมีท่วงท่าลีลาที่เลียนแบบมาจากลีลาท่ารำมวย อาทิ ท่าเสือลากหาง จระเข้ฟาดหาง ถวายพระยาแถน เป็นต้น โดยมีกฎสำคัญระหว่างร่ายรำว่า ห้ามถูกเนื้อต้องตัวฝ่ายหญิงเด็ดขาด มิเช่นนั้นฝ่ายชายจะต้องถูกปรับเรียกว่าเสียผี โดยท่ารำดังกล่าวนี้มีเฉพาะในกลุ่มชนผ่าผู้ไทยเท่านั้น ถือเป็นหนึ่งเดียวของ จ.นครพนม นับเป็นการสร้างสีสัน ความสนุกสนาน รวมถึงโชว์ถึงความอ่อนช้อยสวยงามของสาวงามชนเผ่าผู้ไท ที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค