ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุรถกระบะเหินฟ้าชนบ้านคุณยายแก้วกัลยา อายุ 67 ปี ที่บ้านนาดอน หมู่ 14 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พังยับ เหตุเกิดเมื่อช่วง 02.30 น.ของคืนวันที่ 13 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ รถกระบะลอยไปอยู่ชั้น 2 ของบ้าน บ้านและรถยนต์พังยับ แต่คนในบ้านรอดตายราวปาฏิหาริย์  เหตุการณ์ซ้ำบ้านหลังเดิมเกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อคืนวันก่อน เมื่อมีรถกระบะกลับจากงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ คนขับกระบะซิ่งหลบหลุมน้ำกลางถนน แล้วไถลจะชนบ้านคุณยายแก้วกัลยาอีกครั้ง โชคยังดีที่เมียมีสติคว้าพวงมาลัยหักหลบได้ ท่ามกลางความตกใจของคุณยายและลูกๆ ที่รถกะบะซิ่งมาด้วยความเร็วหวิดชนบ้านเป็นรอบที่ 2 ขณะเดียวกันภรรยาของเจ้าของรถฯ ได้ขอโทษขอโพยคุณยาย บอกว่า เพิ่งกลับมาจากบ้านเลี้ยงในหมู่บ้าน สามีซิ่งรถมาด้วยความเร็วและในรถทะเลาะกันด้วย พอมาถึงหน้าปั๊มน้ำมันเกิดเสียหลักจากบ่อน้ำกลางถนน ทำให้รถจะเสียหลักชนบ้านคุณยายฯ โชคยังดีที่ตนเองคว้าพวงมาลัยหักหลบได้ ขณะที่คุณยายไม่ติดใจ เพราะรถไม่ได้ชนบ้านอีกครั้ง แต่ยังตกใจไม่หายกลัวรถมาชนบ้านเป็นครั้งที่ 2  ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาดอนมาดูที่เกิดเหตุ บอกว่า แปลกใจทำไมบ้านยายจะโดนรถชนครั้งที่ 2 เชื่อว่าต้นไทรที่อยู่ตรงข้ามบ้านยายมีสิ่งลี้ลับ พร้อมชี้ดูต้นไทรพุ่มใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามบ้านคุณยาย ดูแล้วชวนให้ขนลุก

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับคุณยายแก้วกัลยาที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่า บ้านที่เคยถูกรถกระบะเหินฟ้าลอยขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน แม่ของคนขับวัย 21 ปี รับผิดชอบซ่อมบ้านและซ่อมรถให้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่เรียบร้อยเหลืออีกไม่มาก คุณยายแก้วกัลยา เปิดเผยว่า บ้านของตนเองหวิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะเมื่อวันก่อนก็มีเหตุรถกระบะกลับจากงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่มาจากในหมู่บ้านบ้านนาดอนจะกลับบ้านที่บ้านหนองหว้า พอผ่านมาถนนหน้าบ้านเขาบอกว่ารถเกิดตกร่องน้ำจะเหิรฟ้ามาชนบ้านอีกครั้ง โชคดีที่เมียเขาคว้าพวงมาลัยหักหลบทัน ไม่งั้นบ้านพังรอบ 2 แน่ พร้อมกันนี้คุณยายพาไปดูรอยล้อรถที่ยังเหลืออยู่ แต่ก็ยังงงทำไมบ้านตนเองโดนชนทั้งๆ ที่มีเสาไฟฟ้าอยู่บ้าน 

จากนั้นคุณยายฯ พาเดินไปดูต้นไทรที่เกิดคู่มากับต้นมันปลา ที่อยู่เยื้องกับบ้าน พร้อมบอกอีกว่า ที่ตรงๆ นี้เป็นที่ดินของพ่อและแม่ ยกที่ดินบางส่วนเป็นถนนผ่านหมู่บ้าน ไม่คิดว่าต้นไทรไม่ถึง 10 ปีจะโตขนาดนี้ และตอนแรกไม่คิดว่าต้นไทรต้นใหญ่ต้นนี้จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่เมื่อเห็นชาวบ้านพูดเรื่องต้นไทรมีนางไม้ คุณยายก็ยกมือไหว้ขอให้ปกปักรักษาบ้านให้รอดพ้นจากอันตราย รถอย่าได้มาชนบ้านอีกเลย และขอให้ลูกสาวที่ป่วยหายจากโรคภัยไข้เจ็บด้วยเถิด

ส่วนลุงไร อายุ 60 ปี บอกว่า หลานชายมาเปิดร้านคาร์แคร์ใต้ต้นไทร บอกตรงๆ ต้นไทรมีนางไม้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้นไม้แห่งนี้ เพราะตนเองเคยให้เพื่อนที่เป็นหมอธรรมชื่อรีมาดู ปรากฏว่าหมอธรรมเข้ามาไม่ได้ เพื่อนบอกว่าเจ้าที่แรง  บางคืนจะเห็นนางไม้ใส่ชุดไทยสไบข้างสีดำนั่งห้อยขาโตงเตงตรงกิ่งไม้ของต้นไทรแห่งนี้ ใครไม่เชื่อก็ตาม แต่ตนเองและหลานชายที่มาเปิดคาร์แคร์จะนำพวงมาลัยและดอกกุหลาบสีแดงมาไหว้ประจำ

ส่วนนายชวน อายุ 51 ปี เจ้าของร้านคาร์แคร์ บอกว่า ตนเชื่อว่าต้นไทรมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะภรรยาเคยฝันว่า มีนางไม้ที่นี่ ใส่ชุดโบราณสไบชุดสีแดง นั่งห้อยขาโตงเตงอยู่บนกิ่งต้นไทร เป็นนางไม้ที่สวยมาก พูดไปขนลุกไป ตนเองเปิดคาร์แคร์ไม่คิดว่าจะมีลูกค้า แต่พอนำกุหลาบสีแดงมาไว้โคนต้นไทร ปรากฎว่ามีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก  และเชื่อว่า บ้านคุณยายที่ถูกรถกระบะเหิรฟ้าไปชนแต่คนในบ้านรอดตายเป็นเพราะเจ้าที่เจ้าทางในบ้าน และที่สำคัญเป็นเพราะนางไม้ผลักออกไม่ให้ชนคน เชื่อว่านางไม้ท่านช่วยเอาไว้แน่นอน เพราะวันนั้นเขานอนห้องข้างล่าง แต่วันนั้นเขามีความรุ้สึกร้อนรุ่มไปนอนบนบ้าน จนรอดตายอย่างเหลือเชื่อ เรื่องลี้ลับแบบนี้ใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ตนเองเชื่อเรื่องนี้ เจ้าของคาร์แคร์กล่าวตอนท้าย