ประธานกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎรเผย ระเบียบและระบบการเบิกจ่ายอาหารกลางวันโรงเรียนที่เป็นอยู่ไม่มีโรงเรียนไหนปฏิบัติได้ เพราะไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง เงินผ่านหลายหน่วยงาน ล่าช้าครูจำเป็นต้อง “โยกเงิน” เพื่อให้นักเรียนอยู่ได้ ครูชัยยศ โชคร้ายที่โดน ปปช.ตรวจสอบ หากตรวจจริง ครูผิดทั้งประเทศ ต้องรีบแก้ไขระบบการเบิกจ่ายอย่างเร่งด่วน

วันที่ 11 ธ.ค.66 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาเปิดเผยถึงระเบียบของทางราชการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็กนักเรียนชั้นประถม ที่เป็นที่มาของการปลดครูชัยยศ ออกราชการว่า

ระบบการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนอาหารกลางวันโรงเรียนขนาดเล็กเป็นระบบที่ซับซ้อนมากไม่เมื่อเอื้อต่อผู้ปฏิบัติ เหมือนบัตรใบเดียวรักษาทุกโรค โรงเรียนในเมืองกับนอกเมืองใช้กฎเดียวกัน วัตถุดิบเช่นผัก เนื้อสัตว์ โรงเรียนจะไปต้องเบิกกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.หรือเทศบาล) ในพื้นที่ ส่วนเครื่องปรุงอาหาร รวมถึงแก๊สหุงต้มจะต้องไปเบิกจากเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนสังกัด ในความเป็นจริงในทางปฏิบัติทำได้ยากไม่สอดคล้องกับโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะโรงเรียนห่างไกล ซึ่งโรงเรียนในตัวเมืองไม่มีปัญหา

เช่นเดียวกับโรงเรียนแบบขยายโอกาส ที่เพิ่มการสอนระดับ ม.1-ม.3 คือโรงเรียนตามชนบทนั่งเอง เป็นโรงเรียนในลักษณะเดียวกันกับครูชัยยศ สุขต้อ ที่ถูกปลดออกจากราชการ ปัจจุบันโรงเรียนกลุ่มนี้จะมีเด็กนักเรียนประมาณ 30-40 คนรวมกันทั้ง 3 ชั้น เด็กกลุ่มนี้กลับไม่ได้รับเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันทั้งที่เป็นนักเรียนกลุ่มเดียวกันกับนักเรียนประถมครูจะปล่อยให้อดได้อย่างไร

ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นครูมานานกว่า 25 ปี ก่อนที่จะมาเป็น สส.ขอยืนยันว่าไม่มีโรงเรียนไหนทำตามระเบียบได้ ครูจะต้องหาวิธีที่ทำให้นักเรียนอยู่รอด ด้วยการโยกเงินจากอาหารกลางวันไปซื้อแก๊ส หรือเครื่องปรุงก่อน เมื่อเบิกเงินค่าเครื่องปรุงมาได้ค่อยเอาไปคืน รวมถึงเด็กระดับ ม.1- ม.3 ครูจำเป็นจะต้องเจียดเอาส่วนใดส่วนหนึ่งมาให้เด็กได้กินบ้าง ไม่มีครูคนไหนปล่อยให้เด็กอดอยากต่อหน้าได้

ที่ผ่านมาครูมักจะโดนตรวจสอบเป็นประจำโดยเฉพาะการทำอาหารกลางวันเด็กตรงกับความเป็นจริงเกินไปเช่นโรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 40 คน ได้รายงานอาหารกลางวันครบทุกวัน กลับโดนซักว่า “ไม่มีเด็กขาดเลยหรือ” ทำไมทำครบทุกวัน ประเด็นนี้ขอตอบแทนครูว่า “ใครจะไปรู้ว่าเด็กจะขาดวันไหน” ต้องเตรียมอาหารครบจำนวนเอาไว้ก่อน

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ของครูชัยยศ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและถือเป็นครูที่โชคร้ายที่สุด เพราะทุกโรงเรียนทั่วประเทศทำในลักษณะเดียวกัน หาก ปปช.ตรวจสอบทุกโรงเรียน เชื่อได้ว่าครูจะถูกปลดออกแทบทุกโรงเรียนเช่นเดียวกัน

จึงอยากจะวอนให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา ด้วยการแก้ไขระเบียบที่หมักหมมมานาน กว่า 30 ปี สมัยก่อนอยู่ได้เพราะไม่มี ปปช.กลายเป็นว่าตอนนี้เท่ากับครูซึ่งจำเป็นต้องทำผิดระเบียบ อยู่ในภาวะกังวนเท่ากับเอาอนาคตฝากไว้กับระเบียบที่ยังไม่รู้ว่าตนเองจะโดนวันไหน