ตำรวจหนองคาย ร่วมศุลกากรหนองคาย ขยายผลรวบหญิงเวียดนามเช่าห้องพักในตัวเมืองหนองคาย เป็นฐานส่งสัญญาณโทรศัพท์ของแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกเหยื่อ หลังหิ้วกระเป๋าใส่เครื่องมือส่งสัญญาณเข้าประเทศ ศุลกากรเห็นผิดสังเกตประสานตำรวจบุกตรวจค้น เจออุปกรณ์รับส่งสัญญาณเพียบ

เมื่อเวลาประมาณ 14.20 น. วันที่ 12 ก.พ.67 ที่หน้า สภ.เมืองหนองคาย นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางหวือ ถิ ทูง ฮุยเยน (Miss Vu Thuong Huyen) อายุ 39 ปี ชาวเวียดนาม พร้อมของกลางประกอบด้วย เครื่องซิมบ๊อกซ์ (SIM BOX) จำนวน 12 เครื่อง, ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2,000 ซิม, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 7 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยนางหวือ ถิ ทูง ฮุยเยน ถูกแจ้งข้อหา มี ใช้ นำเข้าเครื่องมือโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.วิทยุโทรคมนาคม จัดตั้งสถานที่โทรคมนาคมแบบที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรศัพท์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากนายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ได้พบผู้ต้องหาชาวเวียดนาม ถือกระเป๋าใส่อุปกรณ์เป็นเครื่องซิมบ็อกซ์ 3 เครื่อง เข้ามาในประเทศ อาจมีพฤติกรรมการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงได้ทำการตรวจสอบร่วมกัน พบว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวเช่าห้องพักในตัวเมืองหนองคาย เมื่อทำการตรวจค้นภายในห้องพบว่า มีการตั้งอุปกรณ์สื่อสารดังกล่าวอยู่ภายในห้อง เปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในลักษณะที่ใช้หนองคายเป็นฐานส่งสัญญาณ ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีการใช้เบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ไทย ซิมไทย โทรเข้ามาและส่งสัญญาณไปยังประชาชนผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อหลอกลวงสร้างความเสียหายแก่ผู้หลงเชื่อ เนื่องจากเป็นเบอร์โทรศัพท์ในประเทศไทย โดยหญิงชาวเวียดนามทำหน้าที่เฝ้าเครื่องมืออุปกรณ์ส่งสัญญาณดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในลักษณะนี้ได้ที่ จ.นราธิวาส ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่จับได้ในพื้นที่ จ.หนองคาย ทั้งนี้ขอให้ประชาชนช่วยเฝ้าระวังหากพบว่าสถานที่ใดมีการลักษณะต้องสงสัย อาทิ ไม่เปิดกิจการแต่มีการเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน คล้ายกับสถานีส่งสัญญาณสื่อสาร ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้.