วันที่ 17 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเมืองในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 8 นครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบด้วยอำเภอช้างกลาง อำเภอฉวาง อำเภอพิปูน และอำเภอนาบอน ภายหลัง กกต.นครศรีธรรมราช มีมติให้ใบแดง นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล พร้อมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา สั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สั่งให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 แทน และรับผิดชอบในค่าใช้จ่าย และ ขณะนี้คำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้งถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว รอเพียงแต่ศาลประทับรับฟ้องซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเดือนเมษายนนี้

มีรายงานข่าวว่า ในพื้นที่ยังคงมีผู้ประสงค์ลงสมัครจากหลายพรรค ซึ่งประกอบด้วย นักการเมืองหน้าใหม่จากพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคทางเลือกใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ได้มีบรรดาตัวแทนของพรรคลงพื้นที่หาเสียงแทนนางมุกดาวรรณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางเครือญาติของนางมุกดาวรรณเอง หรือ อดีตผู้สมัคร สส.ของพรรคภูมิใจไทยด้วยกันเอง จึงสร้างความสับสนให้กับบรรดาหัวคะแนนเป็นอย่างมาก

ขณะที่ใน วันที่ 27 มีนาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ภท. และคณะรัฐมนตรี ตลอดจน กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ร่วมงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดธาตุน้อย ต.หลักช้าง อ.ช้างกลางในเวลา 15.30 น. โดยก่อนเข้าร่วมงานแห่ผ้าขึ้นธาตุนั้น ในเวลา 14.00 น. นายอนุทินและนายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ร่วมพบปะผู้นำท้องที่ ท้องถิ่นและตัวแทนสถาบันการศึกษา และประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ เขต 8 ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช

มีรายงานข่าวในช่วงเช้าของวันเดียวกัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มท.จะเดินทางลงมาพร้อมกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน โดยนายชาดาจะแยกเดินทางต่อไปยัง อ.พิปูนและฉวาง เพื่อพบปะกับชาวบ้าน ส่วนนายพิพัฒน์ เข้าพื้นที่ อ.นาบอนเพื่อพบปะพูดคุยกับ ชาวบ้านและผู้ประกอบการโรงงานยางพารา ก่อนที่จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเปิดเวทีปราศรัย ที่ อ.ช้างกลาง มีนายอนุทินเป็นหัวหน้าคณะ จึงนับว่าการเดินทางลงในพื้นที่เขต 8 ครั้งนี้ เป็นการเหยียบย่ำพื้นที่ครั้งใหญ่ ทั้ง 4 อำเภอเป็นการปักกำพื้นที่อย่างชัดเจนว่า ภูมิใจไทยจะต้องนั่งเก้าอี้ตัวเดิม และต้องเป็นคนเดิม

มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวภายในระบุว่า การลงพื้นที่ของนายอนุทิน และคณะ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนางมุกดาวรรณอีกครั้้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีหลายพรรคการเมืองสนใจ และมีการใส่ร้ายป้ายสี ทั้งคำพูดและข้อความผ่านโซเชี่ยลโดยเฉพาะพรรคการเมืองภูมิใจไทยที่มีผู้ประสงค์ลงสมัครในเขตนี้ถึง 2 คน จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่สับสนเป็นอย่างมาก คงต้องถึงเวลาที่ทางพรรคต้องประกาศตัวให้ชัดเจนว่าจะส่งใครลงสมัคร หลังศาลฏีกาตัดสิน