วันพุธ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 05:35 น.

ภูมิภาค

สาวใหญ่ขี่จยย.ไปซื้อน้ำมัน ถูกกระบะชนทับดับอนาถ!

วันพุธ ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2567, 20.38 น.

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 เมษายน 2567 พันตำรวจโท ยอดชาย เสมแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บริมถนนสายเลี่ยงเมืองบายพาส หมู่ 11 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงประสานมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำอุปกรณ์ถ่างสนับสนุนช่วยเหลือ ตำรวจทางหลวงไทรโยค และอาสากู้ภัยทางหลวงกาญจนบุรี อำนวยการจราจร


ในที่เกิดเหตุเป็นร่องน้ำริมถนนพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีเทา แบบแคป ทะเบียน บน 7683 ราชบุรี พลิกตะแคง ด้านหน้าขวาพังเสียหาย เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องถ่างค้ำไม่ให้รถหงายท้องแล้วนำคนขับรถกระบะที่อยู่ในสภาพสลบนำตัวส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา ทราบชื่อคือ นายสมชาย อายุ 44 ปี ที่อยู่ ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบใบหน้าสีแดงเข้มคล้ายคนดื่มสุรามา


อีกฝั่งหนึ่งที่ถูกรถกระบะทับพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวน้ำเงิน ทะเบียน 1กถ 7328 กาญจนบุรี ในสภาพพังยับเสียหายทั้งคัน จึงเคลื่อนย้ายออกเพื่อจะให้พลิกรถกระบะมาคว่ำเพื่อดึงเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุ


พบร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นมานอนหงายบนทางเข้าที่ดินบริเวณดังกล่าว สภาพศพขาขวาขาซ้ายหัก คอหัก ข้อมือซ้ายหัก ทราบชื่อคือ น.ส.มณี อู่อรุณ อายุ 40 ปี ที่อยู่หมู่ 11 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ จึงนำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เพื่อรอญาติดำเนินการ


ต่อมามี นายณัฐวุฒิ หาญธัญญกรรม 37 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุและอยู่ในอาการช็อคพร้อมกับให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าตนใช้ให้เมียออกมาซื้อน้ำมันที่ปั๊มที่อยู่ไม่ไกล แต่ก็หายไปนานผิดปกติ จึงออกมาตามดูก็มาพบว่าถูกรถชนเสียชีวิต ตอนนั้นตนจะเอาไปธุระ แต่ว่ารถยนต์น้ำมันหมดจึงให้เมียไปซื้อน้ำมันจนมาเกิดเหตุ


มีพลเมืองดี ที่ขับตามหลังรถถังกระบะที่เกิดเหตุ ได้ให้ข้อมูลว่า ต้นเห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับรถด้วยความเร็วและหวาดเสียวตั้งแต่แยกไฟแดงวังสารภี มุ่งหน้ามารถก็มีอาการทรายไปทรายมา จนคนที่ขับรถบรรทัดฐานไม่กล้าเที่ยวที่จะแซงตนก็ขับรถตามมาจนมาถึงจุดที่เกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวพอดีเลี้ยวเข้าไปชนรถมอเตอร์ไซค์อย่างจังก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือ ก็อยากจะฝากบอกถึงคนที่ขับรถ ถ้าเมาก็ไม่ควรที่จะต้องขับรถ จะได้ไม่เกิดเหตุสลดดังกล่าว


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบคนขับรถกระบะเพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์หากเป่าไม่ได้ก็จะใช้การเจาะเลือดหาผลปริมาณแอลกอฮอล์ ประกอบการสอบสวน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตหากญาติติดใจก็จะได้ส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป

หน้าแรก » ภูมิภาค